สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.95 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 114.43/46 เยน/ดอลลาร์

– ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1260 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1309/1311 ดอลลาร์/ยูโร

– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,304.74 จุด เพิ่มขึ้น 0.78 จุด, +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 30,807.05 ล้านบาท

– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,505.26 ล้านบาท (SET+MAI)

 

– ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนม.ค.59 พบว่า SET Index ปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 1,300.98 จุด เพิ่มขึ้น 1.0% จากสิ้นปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค ขณะที่ภาพรวมยังคงได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 12 ปี

– นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (9 ก.พ.) ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น พร้อมให้มีการจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนกับวิสาหกิจเริ่มต้น (Start Up) วงเงินลงทุน 3 พันล้านบาท โดยเป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างกองทุนรวมวายุภักษ์ และธนาคารกรุงไทย (KTB)

– นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ได้ร่วมลงนาม MOU โครงการกองทุนร่วมลงทุน SCB Venture Capital วงเงินรวม 100 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนในการส่งเสริมกิจการแก่กลุ่ม Start-up และวิสาหกิจเพื่อสังคม ส่งเสริมให้สามารถขยายกิจการสู่ตลาดระดับภูมิภาคและตลาดโลก โดยให้สินเชื่อด้วยเงื่อนไขพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินสินเชื่อสูงสุดรายละ 5 ล้านบาท รวมทั้ง การร่วมสนับสนุนโครงการส่งเสริม SMEs เข้าถึงแหล่งทุนผ่านทางสมาคมธนาคารไทยอีกทางหนึ่งด้วย

– นายเขมทัศน์ สายเชื้อ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ได้จับมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นองค์กรหลักของประเทศในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ลงนาม MOU “โครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อการวิจัย พัฒนา และวิศวกรรมสำหรับภาคเอกชน” ซึ่ง EXIM BANK และ สวทช.จะร่วมกันให้เงินทุนสนับสนุนให้นำงานวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตเชิงอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมต่อไป

– สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า ราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินในสหรัฐจะร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 2 ดอลลาร์/แกลลอนในปี 2559 นี้ เนื่องจากภาวะน้ำมันล้นตลาด โดย EIA เปิดเผยในรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้นประจำเดือนก.พ. ว่า ราคาน้ำมันเบนซินมาตรฐานโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.98 ดอลลาร์/แกลลอน ในปี 2559 สำหรับครั้งหลังสุดที่น้ำมันเบนซินสหรัฐต่ำกว่าแกลลอนละ 2 ดอลลาร์คือในปี 2547

– เอินส์ท แอนด์ ยัง (EY) ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับท็อปโฟร์ของโลก แนะสิงคโปร์ให้ปรับปรุงประสิทธิภาพของนโยบายการคลัง พัฒนาอนุสัญญาภาษีให้ดีขึ้น และเพิ่มทางเลือกเก็บรายได้จากภาษีใหม่ๆในการจัดทำงบประมาณปี 2559

– คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เปิดเผยว่า บริษัทจีนมียอดการระดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปี 2558 เนื่องจากขั้นตอนการอนุมัติมีความสะดวกมากขึ้น

– สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลง 1.1% เทียบรายเดือน ซึ่งร่วงลงหนักกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่า จะขยับลง 0.1% เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าและก๊าซปรับตัวลดลงหลังสภาพอากาศที่อุ่นกว่าปกติจนส่งผลให้การใช้พลังงานน้อยกว่าแต่ก่อน

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์