RS รูดติดฟลอร์ 2 วันติด ดึง RSXYZ ร่วงอีก 21% โบรกชี้ฐานะการเงินเริ่มเสี่ยง-หวั่นฟอร์ซเซล
RS รูดติดฟลอร์ 2 วันติด ดึง RSXYZ ร่วงอีก 21% โบรกมองหุ้น RS มีปัจจัยลบกดดันจากผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มขาดทุน ฐานะการเงินเริ่มมีความเสี่ยง และราคาหุ้นมีความเสี่ยงจากการใช้หุ้นวางประกันบัญชีมาร์จิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ม.ค. 67) ราคาหุ้น บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ณ เวลา 10:16 น. ปรับตัวลงติดฟลอร์เป็นวันที่ 2 มาอยู่ที่ 2.62 บาท ลบ 1.12 บาท หรือ 29.95% สูงสุดที่ระดับ 2.62 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.61 ล้านบาท
ขณะที่ บริษัท อาร์เอสเอ็กซ์วายแซด จำกัด (มหาชน) หรือ RSXYZ ราคาหุ้นอยู่ที่ 0.91 บาท ลบ 0.24 บาท หรือ 20.87% สูงสุดที่ระดับ 0.96 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.82 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17.25 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหากดูออร์เดอร์ถล่มขายเป็นจำนวนมากในฝั่ง Offer ที่ค้างมากถึง 217 ล้านหุ้น อาจส่งผลให้ราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวลงต่อได้วันถัดไป
นอกจากนี้ หากเข้าไปดูข้อมูลผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในส่วนข้อมูลสรุปรายงานหลักทรัพย์ที่วางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชี มาร์จิ้น ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 พบว่า RS ได้มีการวางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้นของลูกค้า จำนวน 222,101,798 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10.18% ขณะที่ RSXYZ พบข้อมูลการวางเป็นประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้น จำนวน 31,743,516 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2.02%
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (8 ม.ค.67) ว่าจากวานนี้ (7 ม.ค.) ราคาหุ้น RS ลดลง 30.09% มาปิดที่ 3.74 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 74 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าซื้อขายเฉลี่ย/วันย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 27 ล้านบาท โดยคาดว่าอาจเป็นเพราะผลการดำเนินงานยังไม่สดใส โดยงวดไตรมาส 3/67 RS รายงานผลการดำเนินงานปกติมีผล
ขาดทุนสุทธิ 301 ล้านบาท (พลิกจากกำไร 71 ล้านบาท ในไตรมาส 3/66 และขาดทุนเพิ่มจาก 64 ล้านบาท ในไตรมาส 2/66) เนื่องจากรายได้ลดลงกว่า 37% จากงวดเดียวของปีก่อน และลดลง 20% จากไตรมาสก่อน ตามการหดตัวของรายได้ธุรกิจ Commerce และ Entertainment และแนวโน้มไตรมาส 4/67 คาด RS ยังคงมีผลขาดทุนจากการดาเนินงานปกติต่อเนื่อง
ส่วนฐานะทางการเงิน ณ สิ้น ไตรมาส 3/67 มีหนี้สินที่มีดอกเบี้ย 3,839 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ระยะสั้น 1,507 ล้านบาท เงินกู้ระยะยาว 1,835 ล้านบาท (ครบกำหนด 1 ปี 502 ล้านบาท) และหนี้สินสัญญาเช่าทางการเงิน 497 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้น 3,141 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน 1.5 เท่า โดยมองว่าฐานะการเงินไม่แข็งแรงนักภายใต้สภาวะที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มขาดทุน
อีกทั้งบริษัทไม่ประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างบริษัท เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 67 RS มีการแจ้งยกเลิกการเข้าลงทุนในบริษัท GIFT (ปัจจุบันชื่อ RSXYZ) เนื่องจากราคาหุ้น GIFT มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเงื่อนไขทางธุรกิจที่ตกลงไว้เดิมอาจไม่ก่อประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 67 ก.ล.ต. มีการให้ RS ชี้แจงข้อมูลการปรับโครงสร้างบริษัทข้างต้น
ส่วนการซื้อขายหุ้นของผู้บริหาร พบว่าช่วงปลายปี 67 ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ RS มีการขายหุ้น 4-5 ครั้ง (ครั้งละประมาณ 5-10 ล้านหุ้น ที่ราคา 5.5-5.86 บาท/หุ้น) แม้ว่าจะคิดเป็นสัดส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่ฝ่ายวิเคราะห์มองไม่เป็นบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ขณะที่การใช้หุ้นวางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น ตามรายงาน ตลท. เดือน พ.ย. 67 พบว่าหุ้น RS ถูกใช้เป็นหลักทรัพย์วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จี้นของลูกค้าจานวน 222 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และคิดเป็นสัดส่วน 60% ของการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย มีความเสี่ยงถูก Force Sell เมื่อราคาหุ้นลดลง
ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงไม่มีคำแนะนำ และราคาเป้าหมายปี 68 โดยหุ้น RS เบื้องต้นมองการพลิกฟื้นธุรกิจหลัก Commerce และ Entertainment ของ RS มีความท้าทายสูง ขณะที่เริ่มมีความเสี่ยงทางด้านฐานะทางการเงินจากอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุนมีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเงินกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดชาระภายในเดือน ก.ย.25 จานวน 502 ล้านบาท ในขณะที่ RS มีเงินสด ณ สิ้นงวดไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 306 ล้านบาท และมีความเสี่ยงราคาหุ้นได้รับผลกระทบจากการ Force Sell ของหุ้นที่ถูกใช้วางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น