ดอลล์อ่อนค่าหลัง “เยลเลน” ส่งสัญญาณชะลอขึ้นดบ.
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการกล่าวแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 113.76 เยน จากระดับ 114.90 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9732 ฟรังค์ จากระดับ 0.9722 ฟรังค์ ด้านยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.1272 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4529 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4457 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นแตะระดับ 0.7108 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7058ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนหน้า ภายหลังจากที่เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกรอบเกือบ 10 ปีในการประชุมเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวในระหว่างการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า ปัจจัยจากสภาวะที่ตึงตัวในตลาดการเงินที่มีสาเหตุจากการดิ่งลงของราคาหุ้น, ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน และการประเมินความเสี่ยงด้านสินเชื่อในระดับโลก อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐให้อ่อนแอลง
นักลงทุนมองว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนหน้า นอกจากนี้ยังจับตาดูการเปิดเผยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยในวันนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ราคาส่งออกและนำเข้าเดือนม.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.