AOT ปิดร่วงนำกลุ่ม “ท่องเที่ยว” กังวลนทท. จีนช่วงตรุษจีนวูบ แพนิกข่าวถูกลักพาตัว

AOT ปิดร่วงนำกลุ่ม AAV- BA- ERW-CENTEL กังวลนักท่องเที่ยวจีนช่วงเทศกาลตรุษจีนลดลง แพนักกระแสข่าวถูกลักพาตัว


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (13 ม.ค.68) ราคาหุ้นหลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวลงยกแผง ภายหลังข่าวการลักพาตัวชาวจีนไปประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลกระทบความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว นำโดย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ปิดตลาดเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 56.75 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 2.58% สูงสุดที่ระดับ 57.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 55.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,133.39

บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.34 บาท ลบ 0.06 บาท หรือ 2.50% สูงสุดที่ระดับ 2.38 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.28 บาท ด้วยมุลค่าการซื้อขาย 73.92 ล้านบาท

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 19.70 บาท ลบ 1.10 บาท หรือ 5.29% สูงสุดที่ระดับ 20.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 19.30 บาท ด้วยมุลค่าการซื้อขาย 93.56 ล้านบาท

บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW  ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 3.24 บาท ลบ 0.20 บาท หรือ 5.81% สูงสุดที่ระดับ 3.42 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.20 บาท ด้วยมุลค่าการซื้อขาย 125.30 ล้านบาท

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 30.00 บาท ลบ 1.25 บาท หรือ 4.00% สูงสุดที่ระดับ 31.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.00 บาท ด้วยมุลค่าการซื้อขาย 36.12 ล้านบาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ยอดจองท่องเที่ยวในไทยของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงตรุษจีนชะลอตัว ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องที่นักแสดงจีนถูกลักพาตัวไปประเทศเพื่อนบ้านกระทบความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลลบหุ้น AOT กลุ่มโรงแรม และกลุ่มสายการบิน อาทิ AAV และ BA ซึ่งได้รับผลลบจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงอีกส่วนหนึ่งด้วย

ทั้งนี้เรื่องความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะแก้เกมอย่างไร หากนักท่องเที่ยวจีนหายไป จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวประเทศอื่นเข้ามาชดเชยนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป

โดย นายณัฐพล แนะนำหากราคา AOT ปรับตัวลงมาบริเวณแนวรับ 55 บาทบวกลบ เป็นจุดเข้าไปสะสมได้ มองว่า AOT น่าจะฟื้นตัวทางเทคนิคได้ ทั้งนี้ให้ราคาเป้าหมาย 69 บาท

ส่วน บล.พาย ระบุว่า ผลกระทบจากข่าวความกังวลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจากจีน มองว่าเป็นระดับประเทศที่ต้องอาศัยมาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาครัฐที่จะออกมา ทั้งนี้หากพิจารณาจากผลกระทบที่เคยเกิดจากปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในเหตุการณ์เรือล่มในเดือนก.ค. 61 ที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนมาไทยในช่วง 4 เดือนหลังเกิดเหตุการณ์ (ส.ค.-พ.ย.)ลดลงไปกว่า 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ ผลประกอบการงวด ไตรมาส 1/68 (ต.ค.-ธ.ค.67) คาด AOT จะมีกำไรสุทธิ 6,001 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 41 จากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับผลดีจากการเติบโตของจำนวนผู้โดยสาร อย่างไรก็ตามในแง่รายได้เติบโตเพียง 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนช และ 10% จากไตรมาสก่อนหน้า น้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของผู้โดยสาร เทียบกับไตรมาส 4/67 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขอคืนพื้นที่บางส่วนที่เริ่มมาตั้งแต่กลางปี 67 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ คงแนะนำ “ซื้อ” เพราะราคาเป้าหมายอยู่ที่ 63 บาท ระยะยาวฝ่ายนักวิเคราะห์ยังมีมุมมองที่ดีกับ AOT ที่จะได้รับผลดีจากการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่หน่วยงานภาครัฐมีการประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวได้ที่ 38-40 ล้านคน เทียบกับ 35.5 ล้านคนในปี 67

Back to top button