AOT เด้ง 3% นำกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม รับทักษิณ มอง “เอนเทอร์เทนเมนต์ฯ” กระตุ้นเศรษฐกิจ
AOT เด้ง 3% นำ AAV-BA-ERW-AWC-CENTEL-BJC ขานรับข่าว ดร.ทักษิณ ชินวัตร มอง "เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” กระตุ้นเศรษฐกิจ หลัง “ครม.” ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ. ส่งกฤษฎกาพิจารณาก่อนเข้าสู่สภา
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (14 ม.ค.68) ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวขึ้นยกแผง ตอบรับข่าว ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเมื่อค่ำวานนี้ นำโดย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ณ เวลา 10:40 น. อยู่ที่ระดับ 58.25 บาท บวก 1.75 บาท หรือ 3.10% สูงสุดที่ระดับ 58.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 57.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 383.06 ล้านบาท
บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV อยู่ที่ระดับ 2.38 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 2.59% สูงสุดที่ระดับ 2.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.34 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16.92 ล้านบาท
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA อยู่ที่ระดับ 20.20 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 2.54% สูงสุดที่ระดับ 20.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 19.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37.03 ล้านบาท
บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW อยู่ที่ระดับ 3.32 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 1.84% สูงสุดที่ระดับ 3.34 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 22.37 ล้านบาท
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC อยู่ที่ระดับ 3.20 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 1.27% สูงสุดที่ระดับ 3.22 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.16 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 71.96 ล้านบาท
บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL อยู่ที่ระดับ 30.75 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.82% สูงสุดที่ระดับ 31.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11.65 ล้านบาท
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC อยู่ที่ระดับ 21.60 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.47% สูงสุดที่ระดับ 22.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41.32 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก AOT รับปัจจัยหนุนหลัง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเมื่อค่ำวานี้ โดยนโยบายที่กล่าวถึงมีผลต่อการท่องเที่ยว ได้แก่ นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวปลอดภัย เช่น ประกันนักท่องเที่ยว ติดตั้งกล้องภายในปี 68 ที่มองว่านโยบายนี้มีความเป็นไปได้มากกว่า 80%
โดยจะกระตุ้นการท่องเที่ยวจากการฟื้นความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว หลังนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกเที่ยวบินและห้องพัก วิตกข่าวดาราจีนหายตัว และ ข่าวศิลปินฮ่องกงยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศไทยโดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย
นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐเสนอนโยบายระยะกลางถึงยาวปี 69-73 ที่จะสร้าง Infrastructure อาทิ สนามบิน รถไฟฟ้าใต้ดินในเชียงใหม่ ถนนในภูเก็ต ที่เห็นว่านโยบายนี้มีความเป็นไปได้มากกว่า 80%
รวมถึงการจัดตั้งการ Entertainment Complex ทั้งนี้ บล.บัวหลวง ระบุผ่านบทวิเคราะห์ มองนโยบายนี้มีความเป็นไปได้มากกว่า 50% ซึ่งจะหนุนการลงทุนภาคเอกชน และ FDI รวมถึงหนุนการท่องเที่ยว
รวมถึงกล่าวต่อว่ารัฐบาลมีนโยบาย Entertainment Complex ที่มุ่งดึงการลงทุนจากบริษัทต่างประเทศมูลค่า 500,000 ล้านบาท โดยจะส่งเสริมให้บริษัทเหล่านี้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและตลาดทุนของไทยให้เติบโตมากขึ้น
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ครม. เห็นชอบร่าง พรบ. สถานบันเทิงครบวงจร เตรียมส่งกฤษฎีกาดูรายละเอียดร่างกฎหมายก่อนนำเข้าสู่สภาฯ มองเป็นบวก เพราะก่อนหน้าตลาดกังวลว่าขั้นต้อนอาจจะสะดุด เนื่องจากฤษฎีกามีข้อเสนอแนะอย่างน้อย 6 ประเด็นฯก่อนที่จะเสนอ ครม. ในวันนี้ หุ้นที่คาดว่าจะตอบสนองในทางบวกกับข่าวนี้ คือ AOT, BTS, VGI, CPALL, BJC และ BA
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ ภายหลังนายกเผยที่ประชุมครม. เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ขณะด้านคณะกรรมการกฤษฎีกาที่มีการตั้งข้อสังเกต 6 ประเด็นก่อนหน้านั้นยืนยันว่าเพียงความเห็นไม่ได้ขัดขวาง แต่เสนอให้มีการปรับรายละเอียดโครงการ ซึ่งภายหลังจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการตรวจสอบความถูกต้องแล้ว จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
โดยมองเป็นบวกกับกลุ่มโรงแรม อาทิ ERW, AWC และ CENTEL, สายการบิน อาทิ BA AAV และ AOT และกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับการบริโภคภายในประเทศ อาทิ CRC และ CPALL รวมถึงบางกลุ่มที่อาจมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องหรืออาจสนใจเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร แต่อาจยังไม่มีแผนการทางธุรกิจหรือภาพที่ชัดเจนเช่น BTS, VGI และ ROCTEC
บล.พาย ระบุผ่านบทวิเคราะห์ วานนี้ได้เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการลงทุน และแก้ไขปัญหาการพนันผิดกฎหมาย รัฐบาลได้คาดการณ์ว่าการลงทุนจริงต่อจุดไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มไม่ต่ำกว่า 1.2 – 2.4 แสนล้านบาทพร้อมประเมินว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 5-10%
อีกทั้ง กระตุ้นการใช้จ่ายช่วง Low Season ไม่ต่ำกว่า 13% เกิดการจ้างงานกว่า 1.5 หมื่นตำแหน่ง พร้อมกับสร้างรายได้ให้รัฐบาลราว 1.2 – 4 หมื่นล้านบาท ส่วนที่กังวลเกี่ยวกับการพนันน้อยรัฐบาลยืนยันว่าเป็นส่วนน้อยแต่กิจกรรมมาจากสิ่งอื่นเช่น โรงแรม สวนสนุก ส่วนการจัดส่วนไหนนั้นจะหารือหลังจากนี้ แต่จะใช้เวลาไม่นาน อิง Model ของสิงค์โปร์พบว่าในช่วงที่เปิดคาสิโนนั้นเร่งให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวสูงขึ้นพร้อมกับการเติบโตของเศรษฐกิจ มองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว AOT รวมถึงกลุ่มค้าปลีก BJC CRC และ CPALL