SISB ร่วง 10% โบรกลดคำแนะนำเป็น “ถือ” กังวลนักเรียนจีนหด-ปรับขึ้นค่าเทอมน้อยกว่าปีก่อน
SISB ร่วง 10% โบรกคาดมีความกังวลนักเรียนจีนลดลง หลังเกิดกรณีเคส "ซิงซิง" มองว่าประเทศไทยไม่ปลอดภัย อีกทั้งการปรับขึ้นค่าเทอมในปีนี้น้อยกว่าปีก่อน โดยปรับลดเป็นคำแนะนำ “ถือ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ม.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ณ เวลา 12:20 น. อยู่ที่ระดับ 23.00 บาท ลบ 2.50 บาท หรือ 9.80% สูงสุดที่ระดับ 24.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 22.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 368.35 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ราคาหุ้น SISB ที่ปรับตัวลงมาแรงต่อเนื่องจากวานนี้ คาดมีความกังวลใน 2 เรื่อง ได้แก่เหตุการณ์ที่เกิดกับคนจีนหลายรายที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ทั้งนักแสดง นายแบบ อินฟลูเอนเซอร์ อาจกระทบกับการตัดสินใจของนักเรียนจีนที่จะเข้ามาศึกษาในประเทศไทยด้วย โดยโรงเรียนนานาชาติของ SISB มีสัดส่วนนักเรียนชาวจีนราว 23% ของนักเรียนต่างชาติโดยรวม 30%
ขณะที่ SISB ตั้งเป้าหมายนักเรียนใหม่ในปีนี้เพิ่มขึ้น 400 คน มองว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะกระทบทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย รวมถึงปีนี้ SISB ยังไม่มีแผนเปิดโรงเรียนใหม่เพิ่มขึ้นด้วย
อีกทั้งการปรับขึ้นค่าเทอมในปีนี้น้อยกว่าปีก่อน โดยปกติจะปรับขึ้นราว 3-5% ซึ่งปีนี้ SISB จะปรับขึ้นราว 3% จากปีก่อนปรับขึ้น 5% อาจกระทบกับผลประกอบการปีนี้ เสี่ยงต่อ Downside ได้ โดยประเมินว่าการปรับขึ้นค่าเทอมที่ 3% จะกระทบต่อกำไรบริษัทราว 1-2%
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ปรับลดคำแนะนำ SISB เป็น “ถือ” โดยฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดประมาณการปี 2568-2569 ลง 10-13% จาก guidance ล่าสุดของฝ่ายบริหารซึ่งระบุการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษาในปีนี้ซึ่งจะอยู่ที่ 3% เท่านั้น ต่างจากการปรับขึ้นปกติ 5% ต่อปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ในขณะเดียวกัน SISB ไม่มีแผนปรับเปลี่ยนระดับการปรับขึ้นเงินเดือนสำหรับคณาจารย์ (พนักงาน) (ปกติ 5% ต่อปี) เนื่องจากการแข่งขันสำหรับบุคลากรที่มีคุณภาพค่อนข้างสูง
โดยคาด SISB มีอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านพนักงานคิดเป็นประมาณ 40% ของรายได้ โดยรายรับจากค่าเล่าเรียนที่เพิ่มขึ้นที่ระดับ 3% น่าจะยังสูงกว่ารายจ่ายจากการขึ้นเงินเดือนพนักงาน 5%
อย่างไรก็ตาม อัตราการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะช้ากว่าในอดีตและการคาดการณ์ของตลาดในปัจจุบันมาก การคาดการณ์ใหม่ของฝ่ายวิเคราะห์ชี้ว่าอัตรากำไรขั้นต้น EBITDA ในปี 2568-69 จะขยายตัวรวม 18% ในช่วง 2568-69 เทียบกับการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 25% และเทียบกับการขยายตัว 42% ในช่วงปี 2565-67
โดยทางฝ่ายวิจัย ระบุว่าอัตราการเติบโตกำไรของ SISB ในปี 2568-69 จะต่ำกว่า 20% ทั้งนี้ จากการปรับลดประมาณการกำไร ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ SISB จะเติบโต 17.5% ในปี 2568 (จากเดิมคาดว่าโต 26%) และ 17.8% ในปี 2569 (เดิม 23%)
แม้ว่าการเติบโตนี้จะยังถือว่าดีในบริบทของตลาดของประเทศไทย แต่ KKPS มองว่าอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้หุ้นสามารถคงอัตรา PE ไว้ที่ 30 เท่า หรือสูงกว่านั้นเหมือนก่อนหน้านี้
โดย KKPS ปรับลดมูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของ SISB ลงเหลือ 28 บาทจากเดิม 42 บาท บนพื้นฐาน P/E ที่ 25 เท่าสำหรับปี 2568 ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์มองว่าเหมาะสมสำหรับการเติบโตของกำไรสุทธิที่ 17-18% และรูปแบบธุรกิจที่แข็งแกร่งของ SISB
ทั้งนี้ วิทยาเขตใหม่ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 70 อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตชั่วคราวในปีดังกล่าวเช่นกัน