4 หุ้นค้าปลีกบวกคึก! รับมาตรการ Easy E-Receipt เริ่มวันแรก

4 หุ้นค้าปลีกบวกคึก! HMPRO-CRC-CPAXT-CPALL รับมาตรการ Easy E-Receipt เริ่มวันแรก 16 ม.ค.-28 ก.พ.นี้ คาดเม็ดเงินสะพัดราว 7 หมื่นล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ม.ค.68) ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นยกแผง นำโดย บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 9.10 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 4.00% ราคาต่ำสุด 8.80 บาท ราคาสูงสุด 9.15 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 189.65 ล้านบาท

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 34.75 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.21% สูงสุดที่ระดับ 35.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 34.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 216.11 ล้านบาท

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 27.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.92% สูงสุดที่ระดับ 27.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 26.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 209.23 ล้านบาท

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 56.00 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.45% สูงสุดที่ระดับ 56.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 55.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 966.21 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า กระแสการจับจ่ายในประเทศคึกคักขึ้นนับจากวันนี้ (16 ม.ค.) – ช่วง ก.พ. 25 ซึ่งเป็นช่วงเวลามาตรการ Easy E-Receipt มีผลขณะที่ในช่วงเวลาดังกล่าวจะเสริมด้วยนโยบาย Digital Wallet เฟส 2 มีผล 27 ม.ค. หนุนหุ้น Domestic อาทิ ค้าปลีก เน้น CRC, HMPRO เช่าซื้อ เน้น KTC, MTC ธนาคาร (รอตั้งรับ)

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประเทศในปี 2568 ที่คาดว่าจะเติบโต 3% และในปี 2569 คาดว่าจะเติบโต 4% โดยมีเป้าหมายเติบโตถึง 5% ในปี 2570 ตามที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้กล่าวในการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Chat with Tony” ขณะที่ มาตรการเหล่านี้ต่างเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนให้บริษัทให้ตลาดหลักทรัพย์หลายกลุ่มได้รับประโยชน์

สำหรับมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาล 3 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.) โครงการ Easy E-Receipt 2.0 เพื่อการลดหย่อนภาษี ปี 2568 จะเริ่มระหว่างวันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ.นี้ ใช้งบประมาณ 7 หมื่นล้านบาท 2.) โครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ 4 ล้านคน ซึ่งจะดำเนินการภายในวันที่ 27 ม.ค. และ เฟส 3 คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2 ปี 2568 โดยใช้งบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และ 3.) โครงการบ้านเพื่อคนไทย นำร่องในพื้นที่บางซื่อกม. 11, เชียงราก, สถานีธนบุรี และสถานีเชียงใหม่โดยเปิดให้ประชาชนจองซื้อวันที่ 17 ม.ค.นี้ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นของการผ่อนชำระอยู่ที่ 4,000 บาท/เดือน

ด้านโครงการแจกเงินดิจิทัล เฟส 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเผยว่าเตรียมนำนโยบายดังกล่าว โดยจะเป็นการรับเงินสดก้อนเดียว 10,000 บาท ส่วนกลุ่มที่จะได้รับเงินนั้น คาดว่าจะมีช่วงอายุ 50 ปี หรือ 60 ปีขึ้นไป ประเด็นดังกล่าว รมช.คลัง คาดจะเป็นตัวสนับสนุนให้ GDP ในไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ระดับ 4.3-4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเสริมด้วยการอัดฉีดหลายมาตรการกระตุ้นที่เตรียมไว้ในช่วงปลายปี

ส่วนหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์และ Sentiment เชิงบวก คือ กลุ่มเกษตร-อาหาร อาทิ CPF, CBG, OSP, ICHI และ M กลุ่มค้าปลีก อาทิ CPALL, CRC, BJC และ CPAXT รวมทั้ง กลุ่มเช่าซื้อ MTC และ SAWAD

Back to top button