ราคาทองปิดพุ่งกว่า 50 ดอลล์! ตลาดหุ้นร่วงหนุนแรงซื้อ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก และราคาน้ำมันปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 53.2 ดอลลาร์ หรือ 4.45% ปิด (11 ก.พ.) ที่ระดับ 1,247.80 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 51.2 เซนต์ หรือ 3.35% ปิดที่ 15.794 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 29 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 963.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 524.45 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเดินหน้าเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงอย่างหนัก โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงไปกว่า 250 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังคงสร้างแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ย
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงถ้วนหน้า เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กร่วงลงหลุดจากระดับ 27 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาทองคำเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจโลกได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมกับแสดงความกังวลต่อการทรุดตัวลงอย่างมากของราคาพลังงาน