CCET เด้งบวก 6% นำทีม “กลุ่มอิเล็กฯ” รับ “ทรัมป์” เร่งส่งเสริมเทคโนโลยี AI

CCET เด้งบวก 6% นำทีม DELTA-HANA-KCE รับข่าวนโยบาย “ทรัมป์” เร่งส่งเสริมเทคโนโลยี AI พ่วง “บอนด์ยีลด์” ปรับตัวลดหนุนอิเล็กทรอนิกส์


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (23 ม.ค.68) ราคาหุ้น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวขึ้นยกแผง ณ เวลา 10:13 น. ตอบรับข่าวนโยบาย Trump 2.0 มุ่งการลดกฎระเบียบในประเทศเพื่อเสริมสร้างการควบคุม AI นำโดย บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET อยู่ที่ระดับ 9.20 บาท บวก 0.55 บาท หรือ 6.36% สูงสุดที่ระดับ 9.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 459.60 ล้านบาท

บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA อยู่ที่ระดับ 150.00 บาท บวก 3.00 บาท หรือ 2.04% สูงสุดที่ระดับ 150.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 148.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 579.82 ล้านบาท

บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA อยู่ที่ระดับ 24.60 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 2.50% สูงสุดที่ระดับ 24.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 24.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42.11 ล้านบาท

บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE อยู่ที่ระดับ 23.30 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 1.75% สูงสุดที่ระดับ 23.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 22.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24.06 ล้านบาท

โดยโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่านโยบาย Trump 2.0 ได้กำหนดกรอบที่สำคัญ มุ่งเน้นการลดกฎระเบียบในประเทศเพื่อเสริมสร้างการควบคุม AI และระบบนิเวศน์ ขณะเดียวกันเพิ่มข้อจำกัดเทคโนโลยี AI ต่อประเทศจีน โดยมีเป้าหมายหลักในการส่งเสริมการพัฒนา AI ในสหรัฐฯ

อีกทั้ง ให้ความสำคัญกับการผ่อนปรนกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เน้นการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยี AI และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกับจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพยายามจำกัดความก้าวหน้าของจีน และนโยบายนี้ มีแนวโน้มที่จะเน้นผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยคำนึงถึงการป้องกันประเทศที่มีประสิทธิภาพและการจำกัดความก้าวหน้าของจีนในด้านเทคโนโลยี AI

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่า โดนัล ทรัมป์ ออกนโยบายคุมเงินเฟ้อ กดดันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US bond yield) ปรับตัวลง, เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า, บาทแข็งค่าสนับสนุนเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้า เป็นบวกกับตลาดหุ้นไทย รวมไปถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก US bond yield ร่วงปรับขึ้นเด่นนำตลาด อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ DELTA และ KCE

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง DELTA คาดการณ์ไตรมาส 4/67 จะเป็นบริษัทเดียวที่รายงานกำไรปกติเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ฝ่ายนักวิเคราะห์ศึกษา เนื่องจากได้ประโยชน์จากวัฏจักรการเติบโตของ AI และอัตรากำไรขั้นต้นต้นยังคงแข็งแกร่งหลังมีรายได้จากผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูงที่พัฒนา โดย DELTA Thailand ซึ่งไม่ต้องจ่ายค่า Royalty Fee ให้กับ DELTA Taiwan ในสัดส่วนสูง

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุถึง KCE คาดการณ์ว่าปี 68 ความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกจะยังคงเติบโต แต่ในอัตราที่ต่ำกว่า 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการฟื้นตัวจะเริ่มต้นในช่วงครึ่งหลังปี 68 เนื่องจากความต้องการอาจยังคงอ่อนแอจนถึงไตรมาส 1/68 ส่วนผู้บริหารมีมุมมองคล้ายกัน โดยสินค้าคงคลังของลูกค้าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่รอการปรับอัตราภาษีใหม่จากสหรัฐอเมริกาบริษัทมองเชิงบวกต่อการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 68 โดยอิงจากความต้องการในการเติมสินค้าคงคลังและคาสั่งซื้อใหม่จากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่

Back to top button