![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2024/11/PLANB_2024-11-13.jpg)
PLANB บวก 3% ลุ้นโชว์กำไรปี 67 ทะลุ 1 พันล้าน รับรายได้สื่อนอกบ้านโต
PLANB วิ่ง 3% โบรกมองกำไรปี 67 โต 13% แตะ 1 พันล้านบาท รับรายได้จากธุรกิจสื่อนอกบ้านเติบโต 10% จากการขยายสื่อ และการปรับขึ้นราคาค่าโฆษณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 ก.พ.68) ราคาหุ้น บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ณ เวลา 15:20 น. อยู่ที่ระดับ 7.10 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 2.90% สูงสุดที่ระดับ 7.35 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.85 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 250.25 ล้านบาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า PLANB จะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ปี 67 อยู่ที่ 303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน และ 7% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้สื่อโฆษณานอกบ้านที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการขยายสื่อใหม่ โดยเพิ่มจำนวนจอ Digital จาก 210 จอ เป็น 240 จอ ทำให้ media capacity เพิ่มขึ้นเป็น 2,453 ล้านบาท (โต 3% จากปีก่อน, โต 1% จากไตรมาสก่อน) คาดการณ์ว่าอัตราการใช้สื่อโฆษณาจะอยู่ที่ 80.5% แม้ลดลงจาก 81.6% จากปีก่อน แต่ยังเพิ่มขึ้นจาก 76% จากไตรมาสก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม รายได้จากกิจกรรม Engagement Marketing มีแนวโน้มลดลง ทั้งจากปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการรับรู้รายได้จากสปอนเซอร์ชิปกีฬาโอลิมปิกเหลือเพียง 10 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากฟุตบอลยังคงที่ ส่วนกีฬามวยสร้างรายได้ 210 ล้านบาท จากการจัดอีเวนต์ใหญ่ 2 รายการ สำหรับรายได้จาก BNK คาดว่าทรงตัวจากปีก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเป็น 100 ล้านบาท จากการจัดกิจกรรมที่มากขึ้น
ทั้งนี้ ในแง่ของอัตรากำไร คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากปีก่อนตามรายได้ที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าจากไตรมาส 3/67 ซึ่งมีรายได้จากกีฬาโอลิมปิกที่มีอัตรากำไรต่ำ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย คาดการณ์ว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า จากค่าใช้จ่ายปลายปีและการจัดกิจกรรมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการบันทึกการตั้งด้อยค่าของ BNK ประมาณ 15 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 12.7% เพิ่มขึ้นจาก 11.7% จากปีก่อน และ 11.1% จากไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับทั้งปี 67 คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 13% จากปีก่อน แตะ 1,031 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้สื่อโฆษณานอกบ้านที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน จากการขยายสื่อโฆษณาและการปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาประมาณ 5% ในบางทำเล Prime Location ส่งผลให้ media capacity เพิ่มเป็น 9,500 ล้านบาท อัตราการใช้สื่อโฆษณาคาดว่าอยู่ที่ 76.4%
นอกจากนี้ รายได้จากกิจกรรม Engagement Marketing มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากการรับรู้รายได้จากกีฬาฟุตบอลและกีฬามวยที่มีอีเวนต์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม รายได้จาก BNK อาจลดลง เนื่องจากจำนวนนงานอีเวนต์ที่น้อยลง ขณะที่คาดการณ์ว่าจะมีการรับรู้รายได้จากสปอนเซอร์ชิปและสื่อโฆษณากีฬาโอลิมปิกอยู่ที่ 540 ล้านบาท
ด้านอัตรากำไร คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัว เนื่องจากแม้ว่าสื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้นจะมีอัตรากำไรดีกว่า แต่ถูกชดเชยด้วยรายได้จากกีฬาโอลิมปิกที่มีอัตรากำไรต่ำ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามกิจกรรมที่มากขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 11.3% จาก 10.9% โดยรวมแล้วรายได้จากโฆษณายังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของ PLANB โดยการขยายสื่อใหม่และปรับขึ้นค่าโฆษณาจะช่วยหนุนการเติบโตของกำไร แม้จะมีแรงกดดันจากต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นก็ตาม