MINT บวกต่อ 2% หลังโชว์กำไรปี 67 ทะลุ 8 พันล้าน-คุมต้นทุนได้ดี แนะซื้อเป้า 40 บ.

MINT บวกต่อ 2% หลังโชว์กำไรปี 67 โตแกร่ง 18% ทะลุ 8 พันล้านบาท จากปีก่อน รับโรงแรมขยายตัวต่อเนื่อง พ่วงคุมต้นทุนได้ดี ฟากโบรกเชียร์ซื้อเป้า 40 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ณ เวลา 16:05 น. อยู่ที่ระดับ 27.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.85%ราคาสูงสุด 27.75 บาท ราคาต่ำสุด 27 บาท ราคาสูงสุด 27.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 492.54 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จํากัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (17 ก.พ.68) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ราคาเป้าหมาย 40.00 บาท โดย MINT รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/67 มีกำไรสุทธิ 2.9 พันล้านบาท เติบโต 15% และ โต 9% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งตรงตามกับที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้ เมื่อรวมกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ เทียบไตรมาสก่อนหน้า

โดยปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ามีกำไรสุทธิรวม 8,394 ล้านบาท เติบโต 18% จากปีก่อน ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ 8,500 ล้านบาทเล็กน้อย โดยปรับการคาดการณ์เล็กน้อยหลังจากประกาศผลการดําเนินงานของบริษัทยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง จากการเติบโตของ RevPAR สำหรับโรงแรมและอัตราส่วนหนี้สินในการดำเนินงาน แม้จะมีการเติบโตของกำไรในระดับตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นก็ยังซื้อขายในระดับที่ต่ำ

สำหรับการดำเนินงานโรงแรมยังคงเติบโตอย่างมั่นคงรายได้รวมในไตรมาส 4/67 เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการดำเนินงานของโรงแรม รายได้จากโรงแรมและการใช้งานแบบผสมเพิ่มขึ้น 13% ในไตรมาส 4/67 และ 11% ในปี 2567 เนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ RevPAR สำหรับโรงแรมที่เป็นเจ้าของซึ่งเพิ่มขึ้น 3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาส 4/67 และเพิ่มขึ้น 11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนปี 2567 ส่วนอัตราการเข้าพักได้ปรับตัวดีขึ้นประมาณ 2%

ในขณะที่ค่า ADR (Average Daily Rate) ที่สูงขึ้นมีส่วนช่วยผลักดันการเติบโตที่เหลือให้เพิ่มขึ้น ส่วนรายได้จากอาหารในไตรมาส 4/67 เติบโตเพียง 2.5% % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 3.7% % เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2567 โดย SSSG (Same Store Sales Growth) มีแนวโน้มชะลอตัวที่ -0.5% ในไตรมาส 4/67 และ -2.2% ในปี 2567

สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 45% ในไตรมาส 4/67 เพิ่มขึ้นจาก 44.3% ในไตรมาส 4/66 แต่ลดลงจาก 45.8% ในไตรมาส 3/67 เนื่องจากความพยายามลดภาระหนี้ของบริษัท ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 18% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เน็ต Net Gearing ปรับลดลงเหลือ O.8 เท่า ณ สิ้นปี 2567 ลดลงจาก 1 เท่า ในไตรมาส 3/67 สอดคล้องกับเป้าหมายของฝ่ายบริหารที่ได้ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นอัตรากำไรจากการดำเนินงานหลักจึงเพิ่มขึ้นเป็น 6.9% ในไตรมาส 4/67 จาก 6.1% ในไตรมาส 4/66 และ 6.3% ในไตรมาส 3/67 ในขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานหลักในปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 5.1% จาก 4.7% ในปี 2566

Back to top button