AU วิ่ง 3 วันบวก 7% โบรกชูเป้า 12 บาท ลุ้นปี 67 กวาดกำไรเฉียด 300 ล้านบาท

AU บวก 3 วันพุ่ง 7% ลุ้นกำไรปี 37 เฉียด 300 ล้านบาท โต 63% เทียบกับปีก่อนหน้า รับยอดขายเติบโตจากการขยายสาขาเพิ่ม โบรกชูเป้า 12 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.พ.68) ราคาหุ้น บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU ณ เวลา 14:40 น. อยู่ที่ระดับ 8.80 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 2.33% สูงสุดที่ระดับ 8.85 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.28 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น AU ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 นับตั้งแต่ราคาปิดที่ระดับ 8.25 บาท เมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 7% จากราคาล่าสุดที่ระดับ 8.80 บาท

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า AU จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 80 ล้านบาท เติบโต 70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า โดยคาดการณ์ว่ารายได้จะอยู่ที่ 418 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากยอดขายร้านขนมหวานที่ขยายตัว การเพิ่มสาขาใหม่ 2 แห่ง และการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายสินค้าใน 7-Eleven

รวมถึงการขายสินค้า OEM ให้กับสายการบินไทย ปัจจุบันสินค้าของ AU มีจำหน่ายในสาขา 7-Eleven ครอบคลุมประมาณ 14,000 แห่งทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม รายได้อ่อนตัวลงจากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมที่ส่งผลให้ยอดขายชะลอราว 1-2 สัปดาห์

พร้อมกันนี้ คาดการณ์ว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ AU ในไตรมาส 4/67 จะอยู่ที่ 64.2% ลดลงจาก 65.4% ในช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้า Non-Café เพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 15% ในช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 3% จากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า ตามยอดขายที่อ่อนตัวลง

สำหรับผลประกอบการทั้งปี 67 คาดการณ์ว่า AU จะมีกำไรสุทธิ 291 ล้านบาท เติบโต 63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1,563 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แรงหนุนจากยอดขายที่เติบโตจากการขยายสาขา การออกเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขายสินค้า Non-Café ที่เติบโตดี ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นทั้งปีคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 65.6% เพิ่มขึ้นจาก 64.8% ในปี 66

โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้มูลค่าที่เหมาะสมใหม่ที่ 12 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเผชิญปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การใช้จ่ายที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาดการณ์ ซึ่งอาจกระทบการเติบโตของรายได้และผลประกอบการ การขยายสาขาที่ต่ำกว่าคาดการณ์ในแบรนด์ After You, Luggaw และ Mikka รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจขนมหวาน

Back to top button