MAGURO วิ่งต่อ 5% โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 26 บ. หลังโชว์กำไรปี 67 แตะ 96 ล้านบาท

MAGURO บวก 5% หลังรายงานกำไรปี 67 เติบโต 33% แตะ 96 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไร 72 ล้านบาท ฟากโบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท ลุ้นกำไรปีนี้เติบโต 46% แตะ 141 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ก.พ.68) บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO ณ เวลา 14:57 น. อยู่ที่ระดับ 19.60 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 5.38% สูงสุดที่ระดับ 19.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33.26 ล้านบาท

นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MAGURO เปิดเผยว่า การดำเนินงานของบริษัทฯ ปี 2567 มีผลการดำเนินการที่ดี มีรายได้รวม 1,378.2 ล้านบาท เติบโต 32 % จากรายได้รวม1,046 ล้านบาทในปี 2566 และมีกำไรสุทธิ 96.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 33.3% จากกำไรสุทธิ 72.5 ล้านบาทในปีก่อน นับว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ โดยเฉพาะไตรมาส 4/2567 รายได้เติบโต 12.4% เป็น 399.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 34.3 ล้านบาท เติบโต 16.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา

“ในปีนี้ 2568 บริษัทฯ มีแผนจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงตั้งเป้าหมายปี 2568 จะมีรายได้รวมเติบโต 30% จากปี 2567 ด้วยการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและระมัดระวัง โดยบริษัทมีแผนจะเปิดร้านหมูทอด Tonkatsu AOKI เพิ่มอีก 4 สาขาในไตรมาส 1 และ 2 หลังจากสาขาแรกที่เซ็นทรัล เวิลด์ ประสบความสำเร็จอย่างสูงเกินความคาดหมาย และมีรายได้ต่อบิลค่อนข้างสูง นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดร้านอาหารแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 2 แบรนด์ เพื่อขยายฐานรายได้ ขยายสู่เซ็กเม้นท์ใหม่ และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด” นายจักรกฤติ กล่าว

ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มสำหรับ ร้าน Maguro และ Hitori Shabu อย่างต่อเนื่องเพือรองรับลูกค้ากลุ่มพรีเมียมแมส โดยล่าสุดได้เปิดร้าน Hitori Shabu สาขาพระราม 9 ซึ่งได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และนอกจากเปิดร้านเพิ่ม บริษัทฯ ยังเน้นการตลาดที่มีความแปลกใหม่ การจัดโปรโมชันเมนูพิเศษทั้งในแง่ของวัตถุดิบใหม่ รสชาติใหม่ที่หลากหลาย และในแง่ของขนาด (portion size menu) และราคาที่หลากหลายรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภค

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง MAGURO แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ จากปัจจัยสำคัญ คือ 1.) ปี 2567 รายได้เติบโต เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่าเพิ่มขึ้น 23% และอัตรากำไรขึ้นต้น (GPM) ขยายตัวจากสัดส่วน Hitori shabu และแบรนด์ใหม่ที่ High margin ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมไปถึงออัตราส่วนระหว่างค่าใช้จ่ายในการขาย ทั่วไป และบริหาร (SG&A to sales) ลดลงจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี 2.) แผนการเปิดสาขาในปี 2568 มากกว่า 10 สาขา จากคาดการณ์ไว้ที่ 13 สาขา สำหรับ Cou Cou เปิดเพิ่ม 1 สาขา, Tonkatsu Aoki 4 สาขา

3.) ต้นทุน Salmon ยังทรงตัวจากไตรมาสก่อน ส่วนเนื้อวากิวปรับตัวลดลง 5-10% และ 4.) Tonkatsu Aoki ที่ลงทุน 15 ล้านบาทต่อสาขา โดยสาขาแรก CTW พลิกกลับมาเป็นกำไรช่วงเดือน ม.ค. แล้ว ส่งผลให้ฝ่ายนักวิเคราะห์คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากรายได้ที่เติบโตต่อ

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุผ่านบทวิเคราะห์ถึง MAGURO แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.25 บาท ภายหลังรายงานผลกำไรไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 34 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการของฝ่ายนักวิเคราะห์ 5% และ Bloomberg คาดการณ์ไว้ 6% โดยหลักมาจากยอดขายและอัตรากาไรขั้นต้นที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยอดขาย เติบโต 32% แตะ 1.37 พันล้านบาท

และกำไรหลักเติบโต 41% แตะ 102 ล้านบาท จากความสำเร็จในการเพิ่มสาขาใหม่ 13 แห่งและแบรนด์ใหม่ 2 แบรนด์ ซึ่งฝ่ายนักวิเคราะห์ยังคงคาดว่ากำไรจะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 28% ในปี 2568-2569 เป็น 129-159 ล้านบาท จากแผนการขยายงานเชิงรุกของบริษัท ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น และการประหยัดต่อขนาดที่มากขึ้น

Back to top button