ABC เพิ่มทุน 200 ล้านหุ้นเสนอขาย PP เพื่อนำเงินลงทุนด้านพัฒนาอสังหาฯ
ABC เพิ่มทุนจำนวน 20 ล้านบาทเป็น 1,201,787,837.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,181,787,837.50 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่เสนอขาย PP จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เพื่อนำเงินลงทุนด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการศึกษา
นายเปรมชัย กุศลฤกษ์ดี กรรมการ บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ABC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 20 ล้านบาทเป็น 1,201,787,837.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,181,787,837.50 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท
รวมทั้งมีมติเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนด้วยวิธีเสนอขายให้แก่บุคคลภายนอกเป็นการเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 200 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายตามราคาตลาดในช่วงที่เสนอขายซึ่งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด และขอให้ที่ประชุมมอบอำนาจให้ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร หรือกรรมการ เป็นผู้มีอำนาจในการกำหนดราคาเสนอขาย จำนวนหุ้นที่เสนอขาย และกลุ่มนักลงทุน
สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนครั้งนี้เพื่อลงทุนด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการศึกษา ทำให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอต่อการลงทุนในโครงการต่างๆของบริษัท และเพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ของบริษัทในอนาคต
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติเงินลงทุนสิทธิการเช่าอาคารเดอะพลาซ่า ตามบันทึกข้อตกลงในการทำสัญญาเช่าอาคารเดอะพลาซ่า ที่บริษัทลงนามกับบริษัท เดอะพลาซ่า ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ จำกัด เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559 โดยให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไปโดยบริษัทจะเช่าอาคารพลาซ่าสูง 5 ชั้น 1 อาคาร พร้อมอาคารจอดรถ 7 ชั้น บนเนื้อนที่ 8 ไร่ โดยมีเนื้อที่ใช้สอยรวม 37,400 ตารางเมตร ซึ่งตั้งอยู่ย่านรามคำแหง เพื่อนำมาปรับปรุงอาคารเป็นศูนย์การค้าด้านสัตว์เลี้ยงครบวงจร โดยจะเช่าในระยะเวลา 30 ปี แบ่งเป็นชำระค่าสิทธิการเช่า 60 ล้านบาท แบ่งชำระ 3 ปี จนครบสัญญา มูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 1,683 ล้านบาท
โดยบริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งหมด 30 ปี เท่ากับ 3,846 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายรวม 30 ปีเท่ากับ 3,136 ล้านบาท กำไรสุทธิ 30 ปี เท่ากับ 711 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดรับสุทธิ 124 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีบริษัทคาดว่าจะได้รับรายได้และกำไรจากโครงการเพื่อเป็นรายได้ประจำอย่างสม่ำเสมอ ลดความผันผวนของรายได้ที่ไม่แน่นอน และเพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากการจำหน่ายห้องชุด และธุรกิจ e-Business รวมทั้งสร้างผลตอบแทนระยะยาวเนื่องจากทำเลของโครงการเป็นย่านพาณิชยกรรม ที่มีความหนาแน่นของประชากรในบริเวณย่านรามคำแหงสูง มีหมู่บ้านจัดสรรในบริเวณรอบนอกจำนวนมาก ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญของโครงการ