RT ปิดบวก 3% หลังโชว์กำไรปี 67 โต 15% แตะ 71 ล้านบาท พ่วงตุนแบ็กล็อก 5.8 พันลบ.

RT ปิดเช้าบวก 3% หลังรายงานกำไรปี 67 เติบโต 15% แตะ 71 ล้านบาท อานิสงส์รับรู้รายได้งานก่อสร้างบริหารต้นทุนงานโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ พ่วงตุนแบ็กล็อก 5.8 พันล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ปิดตลาดเช้าอยู่ที่ระดับ 0.30 บาท บวก 1.10 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ระดับ 0.31 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.29 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.55 ล้านบาท

นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านขุดเจาะอุโมงค์ วิศวกรรมโยธา  และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2567 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 3,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,151 ล้านบาท จำนวน 485 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% และ มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท จำนวน 31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 78%

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 970 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 818 ล้านบาท จำนวน 152 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19% และมีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.42  ล้านบาท จำนวน 11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 745%

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากรับรู้รายได้งานก่อสร้างตามความคืบหน้าของงานในมือ  รวมถึงสามารถบริหารต้นทุนงานโครงการอย่างมีประสิทธิภาพตามแผนที่วางไว้

สำหรับทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 1/2568 มีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทเข้ารับงานใหม่ จำนวน 4 งาน มูลค่ารวม 122 ล้านบาท ซึ่งสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ตามแผน และมีงานที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอีกหลายโครงการ

ขณะเดียวกัน RT ยังมุ่งเน้นการรับงานโครงการก่อสร้างที่หลากหลาย มีอัตรากำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี รวมถึงการรับงานระยะสั้น รับรู้รายได้เร็ว เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และบริหารจัดการกระแสเงินสดได้ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีโครงการก่อสร้างในมือจำนวน 22 โครงการ และมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 5,796 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2571

นอกจากนี้ บริษัทดำเนินการชำระหุ้นกู้ที่ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566  อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.20% ต่อปี ซึ่งบริษัทได้ชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมด รวมมูลค่าประมาณ 709 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ตอกย้ำถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจ และสะท้อนความสามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

Back to top button