
TFG-GFPT บวกแรง! รับข่าวจีนรีดภาษี “เนื้อไก่” สหรัฐฯ 15% ช่วยดันส่งออกไทยโต
TFG บวก 4% นำ GFPT รับข่าวรัฐบาลจีนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเนื้อไก่สหรัฐ 15% ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีจากสหรัฐ 20% ลุ้นหนุนผู้ประกอบธุรกิจส่งออกเนื้อไก่ในไทยได้ประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (4 มี.ค.68) ราคากลุ่มส่งออกเนื้อไก่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจาก รัฐบาลจีน ได้ประกาศเพิ่มภาษีสินค้าบางประเภทจากสหรัฐฯ 15% โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 10 มี.ค. 68 เพื่อเป็นการตอบโต้การขึ้นภาษี 20% อาทิ สินค้าไก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด และฝ้าย และปรับขึ้นภาษี 10% สินค้าข้าวฟ่าง ถั่วเหลือง เนื้อหมู เนื้อวัว ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ผักผลไม้ และผลิตภัณฑ์นม ซึ่งทำให้ราคาหุ้นนำโดย บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ณ เวลา 15:46 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 4.02 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 4.15% สูงสุดที่ระดับ 4.18 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.82 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 77.08 ล้านบาท
บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT อยุ่ที่ระดับ 8.25 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 1.23% สูงสุดที่ระดับ 8.55 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47.06 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลจีน ได้ประกาศเพิ่มภาษีสินค้าบางประเภทจากสหรัฐฯ ที่นำเข้ามาในจีน โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 10 มี.ค. 68 เพื่อเป็นการตอบโต้การขึ้นภาษี 20% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้าจีนเมื่อวันที่เดียวกัน โดยจีนจะเก็บภาษีเพิ่ม 15% จากสินค้าไก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด และฝ้าย และ 10% จากสินค้าข้าวฟ่าง ถั่วเหลือง เนื้อหมู เนื้อวัว ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ผักผลไม้ และผลิตภัณฑ์นม
ขณะที่ การเพิ่มภาษีในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยมีผลทันทีต่อบริษัทอเมริกันกว่า 15 บริษัท ซึ่งอาจทำให้การค้าระหว่างสองประเทศซับซ้อนขึ้นและมีต้นทุนที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคและองค์กรในทั้งสองประเทศ
อีกทั้ง สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า การระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในอเมริกาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีไก่ถูกฆ่าไปแล้ว 166 ล้านตัว อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีโรลลินส์ กล่าวว่า รัฐบาลอเมริกันมีแผนเพิ่มการนำเข้าไข่ไก่จากต่างประเทศและลดการส่งออกไข่ไก่ เพื่อเพิ่มปริมาณไข่ในประเทศและทำให้ราคาไข่ไก่ลดลง โดยตุรกีรับปากว่าจะส่งไข่ไก่ให้ 15,000 ตันภายในเดือนกรกฎาคม
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ ปัจจุบันของหุ้นเนื้อไก่ในไทยมีทิศทางบวกจากอานิสงส์ของข่าวการระบาดของไข้หวัดนกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลให้ซัพพลายของเนื้อไก่ในตลาดโลกลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากสหรัฐฯ เป็นผู้ผลิตเนื้อไก่อันดับ 1 ของโลกและส่งออกเป็นอันดับ 2 คือ บราซิล
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของซัพพลายของไก่ปู่ย่าพันธุ์ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เช่น GFPT และ CPF มีแหล่งซื้อที่กระจายความเสี่ยงอยู่แล้ว โดย GFPT ซื้อไก่ปู่ย่าพันธุ์จากนิวซีแลนด์เป็นหลัก
ส่วน CPF ซื้อจากสหรัฐฯ, ยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการระบาดของโรคไข้หวัดนกที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นประจำ ดังนั้นจึงมองว่า Supply ของเนื้อไก่ยังไม่ลดลงในระยะยาว
ในด้านการลงทุน แนวโน้มราคาเนื้อสัตว์ทั้งไก่และหมูในไทยและเวียดนามฟื้นตัวดี โดยเฉพาะต้นทุนอาหารสัตว์ที่อยู่ในระดับต่ำ จึงแนะนำ CPF เป็นหุ้น Top pick โดยมีราคาเป้าหมายที่ 27.40 บาท ขณะที่ GFPT ก็มีแนวโน้มที่ดีเช่นกัน โดยมีราคาเป้าหมายที่ 13.80 บาท เนื่องจากราคาขายไก่ฟื้นตัวเร็วและ Valuation ยังอยู่ในระดับต่ำ