ราคาทองคำปิดพุ่งเกือบ 15 ดอลล์ นักลงทุนเข้าซื้อหลังตลาดหุ้นร่วง
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำอย่างคึกคัก หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร หลังจากที่ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด (18 ก.พ.) พุ่งขึ้น 14.9 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ที่ระดับ 1,226.30 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 5.5 เซนต์ หรือ 0.36% แตะที่ 15.432 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลดลง 4.1 ดอลลาร์ หรือ 0.43% แตะที่ 945.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดร่วงลง 11.05 ดอลลาร์ หรือ 2.1% แตะที่ 504.85 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคึกคัก หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดปรับตัวลง 0.25% เมื่อคืนนี้ หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ลดแรงบวก และได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัย โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกขยับขึ้นสู่ระดับ -2.8 ในเดือนก.พ. จากระดับ -3.5 ในเดือนม.ค. แต่ดัชนียังคงติดลบเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากอุปสงค์โลกที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งการดิ่งลงของราคาน้ำมัน
ขณะที่ Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนม.ค.ลดลง 0.2% สู่ระดับ 123.2 อันเนื่องมาจากการร่วงลงของราคาหุ้น