EA ควง NEX วิ่ง! วางเป้าผลงานปี 68 สดใส ลุยกรีนดาต้าเซ็นเตอร์-เร่งระบายรถอีวี

EA-NEX บวกคึก! ลุ้นผลงานปีนี้พลิกบวกหลังทิศทาง 4 ธุรกิจหลักยังสดใส ขณะที่ NEX จะทยอยระบายรถอีวีในสต๊อกออกมา พร้อมจ่อคิวลงนามวินด์ฟาร์ม 2 โครงการรวม 180 เมกะวัตต์ เตรียมลุยธุรกิจใหม่ “กรีนดาต้าเซ็นเตอร์”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 มี.ค.68) ณ เวลา 10:23 น. ราคาหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA อยู่ที่ระดับ 2.42 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.42% สูงสุดที่ระดับ 2.46 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82.20 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX อยู่ที่ระดับ 0.72 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 4.35% สูงสุดที่ระดับ 0.74 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.68 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.86 ล้านบาท

นายวสุ กลมเกลี้ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน EA เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 4,630 ล้านบาท ซึ่งปีก่อนมีกําไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่ (ไม่รวมรายการพิเศษ) อยู่ที่ 2,227 ล้านบาท แต่ในปีนี้จะไม่มีรายการปรับปรุงทางบัญชีที่ไม่ใช่เงินสด (non-cash items) เหมือนกับปีก่อนแล้ว

ขณะเดียวกันในปีนี้ บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX จะทยอยระบายรถอีวีในสต๊อกออกมา ส่งผลให้คาดว่าผลประกอบการปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน

ทั้งนี้บริษัทยังมองการเติบโตของ 4 ธุรกิจหลัก คือ

1.โรงไฟฟ้า ที่ปัจจุบันมีทั้งโซลาร์ฟาร์ม รวม 278 เมกะวัตต์ (MW) และวินด์ฟาร์ม 566 เมกะวัตต์ โดยในปีนี้จะมีโรงไฟฟ้าขยะที่จะเข้ามา 16 เมกะวัตต์

2.ธุรกิจไบโอฟิลด์ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตไบโอดีเซล 8 แสนลิตรต่อวัน และอยู่ระหว่างการทำน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จำนวน 1 แสนลิตรต่อวัน ที่จะเริ่มผลิตภายในปลายปีนี้

3.ธุรกิจ EV ที่มีทั้งโรงงานประกอบรถ EV สถานีชาร์จ และโรงงานแบตเตอรี่ 2 กิกะวัตต์ และ

4.โครงการที่ สปป.ลาว หลังจากก่อนหน้านี้ EA ได้ลงนามในสัญญาร่วมพัฒนาโครงการ (Joint Development Agreement) กับรัฐบาล สปป.ลาว จัดตั้งบริษัทร่วมทุน Super Holding Company ในการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดแบบรวมศูนย์ของ สปป.ลาว

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ อาทิ กรีนดาต้าเซ็นเตอร์ (Green Data Center) ที่มีแผนจะร่วมลงทุนกับบริษัทชั้นนำ, โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ (Floating Solar) ที่บริษัทได้รับสิทธิ์ใน สปป.ลาว และโครงการ EV Ecosystem ที่จะเข้ามาส่งเสริมรายได้ให้กับบริษัทในระยะยาว

สำหรับแผนการดำเนินงานของธุรกิจไฟฟ้า ปัจจุบันโครงการพลังงานหมุนเวียนบิ๊กล็อตรอบแรก มีโครงการวินด์ฟาร์มของ EA จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ วินด์ ขอนแก่น 2 และวินด์ มหาสารคาม 1 รวม 180 เมกะวัตต์ ที่ยังรอลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และในปีนี้จะมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะที่ปทุมธานีและภูเก็ตที่ชนะการประมูลแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการที่พร้อมร่วมประมูลบิ๊กล็อตเพิ่มเติมอีก แบ่งเป็น วินด์ฟาร์ม 7 โครงการ รวม 630 เมกะวัตต์ และโซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการ รวม 150 เมกะวัตต์

ด้านธุรกิจผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ ผ่านบริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงที่จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ Chengli Special Automobile Co., Ltd. หนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์ประเภทพิเศษรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ซึ่งมีประสบการณ์ในการผลิตและส่งออกรถยนต์ประเภทพิเศษมากกว่า 30,000 คัน ไปยังกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทพิเศษจะถูกประกอบในโรงงานของ EA ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ขนาด 65,000 ตารางเมตร (80 ไร่)

โดยมีกำลังการผลิตสูงสุดระหว่าง 3,000-9,000 คันต่อปี ขึ้นอยู่กับระดับความซับซ้อนของยานยนต์ที่ผลิต คาดว่าจะเริ่มการผลิตในเดือน เม.ย. 2568 โดยยานยนต์ที่อยู่ในแผนการผลิต ได้แก่ รถพยาบาล รถขยะ และรถกระเช้า ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทพิเศษเหล่านี้จะได้รับการประกอบในประเทศไทยในระดับอุตสาหกรรม

ส่วนธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและระบบกักเก็บพลังงาน ภายใต้การบริหารผ่านบริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กำลังการผลิต 2 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี และมีแผนขยายเป็น 4 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี อยู่ระหว่างการเจรจาในการลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อจัดตั้งการร่วมทุนกับหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของจีน ซึ่งมีฐานลูกค้าสำคัญในสหรัฐอเมริกาและยุโรป การร่วมทุนครั้งนี้มุ่งเน้นการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนและจะเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยแบตเตอรี่เหล่านี้ส่วนใหญ่จะใช้ในระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage System) เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ

ขณะที่ธุรกิจใน สปป.ลาว หลังจากจัดตั้งบริษัทร่วมทุน Super Holding Company ซึ่งรัฐบาล สปป.ลาว ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 65% และบริษัทจะถือหุ้น 35% โดย EA มีสิทธิ์ในการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดแบบรวมศูนย์ของ สปป.ลาวทั้งหมด คาดว่า EA ก็จะสามารถรับรู้ผลตอบแทนจากการร่วมลงทุนเข้ามาได้ภายในปีหน้าหรือปีถัดไป

สำหรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน EA248A และ EA249A นั้น ด้วยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนและกระแสเงินสดของบริษัท จึงมั่นใจว่ามีสภาพคล่องเพียงพอที่จะชำระหุ้นกู้ดังกล่าว รวมทั้งยังหารือกับสถาบันการเงินไว้ด้วย

Back to top button