
AIT ปิดบวก 2% รับ TKC เทนเดอร์เพิ่ม 10% ราคาสูงกว่ากระดาน 5.20 บาท
AIT ปิดบวก 2% รับ TKC เตรียมทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้นเพิ่ม 10% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด ราคาสูงกว่ากระดานหุ้นละ 5.20 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(26 มี.ค.68) ราคาหุ้นบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ปิดตลาดอยู่ที่ 4.76 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 2.15% ราคาสูงสุด 4.82 บาท ราคาต่ำสุด 4.70 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 30.70 ล้านบาท
ด้านนายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2568 เชื่อว่ายังมีทิศทางการเติบโตที่ดี โดยแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% วางกลยุทธ์หลักในการสร้างรายได้และการเติบโตที่ยั่งยืนผ่าน 3 แกนธุรกิจหลัก ประกอบด้วย Core Business – New Business – JV และ M&A โดยธุรกิจหลัก ยังคงสร้างความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญงานวางระบบ ในฐานะหนึ่งในผู้นำธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน พร้อมทั้งการขยายเข้าไปในธุรกิจใหม่ ๆ และการหาพันธมิตรในรูปแบบ JV และ M&A เพื่อเร่งแผนการโตอย่างก้าวกระโดด ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากโอกาสในงานภาครัฐและเอกชนที่ยังคงลงทุนในดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนจากภาครัฐ
ปัจจุบัน TKC มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ราว 2,000 ล้านบาท คาดจะรับรู้รายได้ปีนี้ประมาณ 65% โดยตั้งเป้าความสามารถในการเข้าประมูลประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะเลือกเข้าร่วมประมูลโครงการที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และตั้งเป้าอย่างน้อยจะมีงานเข้ามาเติมพอร์ตประมาณ 30-40% ของการเข้าร่วมประมูล ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากลูกค้าเอกชน 40% และรัฐบาล 60%
“ในปี 2568 Core Business, New Business, JV และ M&A จะเป็นกลไกในการหนุนทั้งรายได้และกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ บริษัทฯ ได้ลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ในไตรมาส 4/2566 สัดส่วน 24.90% ได้มีการรับรู้กำไรตามสัดส่วนการลงทุนเข้ามาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากนโยบายของภาครัฐ จะสนับสนุนรายได้ให้กับ TKC ในปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 20%” นายสยาม กล่าว
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัท TKC มีมติอนุมัติการซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัท โดยการทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วน (Voluntary Partial Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นเดิมของ AIT จำนวนไม่เกิน 153,641,557 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ AIT ในราคาหุ้นละ 5.20 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 798,936,096.40 บาท
ภายหลังจากการเข้าทำรายการ บริษัทจะถือหุ้นใน AIT รวมเป็นสัดส่วนไม่เกิน 34.90% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ AIT จาก ณ วันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ทำธุรกรรมการทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วนของ AIT นี้ บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ AIT โดยก่อนหน้านี้บริษัทถือหุ้นสามัญคิดเป็นสัดส่วน 24.90% ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ AIT สำหรับระยะเวลาทำคำเสนอซื้อ ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.-26 มิ.ย. 2568 และวันที่ชำระราคาหลักทรัพย์ที่เสนอซื้อจะเป็นวันที่ 30 มิ.ย. 2568
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท/หุ้น คิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 80,000,000 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 6 พ.ค. 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 20 พ.ค. 2568 โดยบริษัทจะจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 24 เม.ย. 2568 เพื่อพิจารณามติดังกล่าว
สำหรับผลประกอบการบริษัทฯ ในงวดปี 2567 มีรายได้รวม 2,448.89 ล้านบาท ลดลง 36.99% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,886.53 ล้านบาท เนื่องจากในปี 2567 บริษัทรับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566 นอกจากนี้ โครงการที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่เป็นงานโครงการขนาดกลางและงานบริการบำรุงรักษา มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 210 ล้านบาท ลดลง 11.02% จากปีก่อน ที่มีกำไร 236.04 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 6.07% มาอยู่ที่ 10.91% ในปี 2567 สาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม ซึ่งเป็นการลงทุนที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4/2566