
SABUY ร่วง 18% เซ่นตลท. จี้แจงงบปี 67 พบทรัพย์สินสูญหาย 215 ลบ. ขาดทุนพุ่ง 6.23 พันล้าน
SABUY ร่วง 18% เซ่นตลท. จี้แจงงบปี 67 พบทรัพย์สินสูญหาย 215 ล้านบาท พร้อมขาดทุนพุ่ง 6,238 ล้านบาท และมีขาดทุนสะสม 8,152 ล้านบาท เดดไลน์ภายในวันที่ 3 เม.ย.68
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 มี.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ณ เวลา 10:34 น. อยู่ที่ระดับ 0.33 บาท ลบไป 0.07 บาท หรือ 17.50% สูงสุดที่ระดับ 0.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.29 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.18 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้นของ SABUY เกิดแรงเทขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยงหลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้บมจ. สบาย เทคโนโลยี (SABUY) ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีมีข้อสังเกตดังนี้ (1) ทรัพย์สินและสินค้าคงเหลือสูญหาย 215 ล้านบาท (2) การประเมินมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ธุรกิจให้เช่าตู้ล็อคเกอร์ยังไม่แล้วเสร็จ (มีค่าความนิยม 71% ของมูลค่าซื้อ) อาจมีการปรับปรุงมูลค่าในอนาคต (3) ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง กรณีปี 2567 ขาดทุน 6,238 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3,283%) มีขาดทุนสะสม 8,152 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1,103%)
โดยขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 3 เมษายน 2568 ในส่วนความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 10 เมษายน 2568 นอกจากนี้ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท
ทั้งนี้ ข้อมูลสำคัญในงบการเงินประจำปี 2567 โดยผู้สอบบัญชีพบว่ามีทรัพย์สินและสินค้าคงเหลือสูญหายรวม 215 ล้านบาท ซึ่งบริษัทบันทึกค่าความเสียหายดังกล่าวในงวดไตรมาสที่ 4 ปี 2567 โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินของบริษัท 114 ล้านบาท (53%) ของ PTECH 89 ล้านบาท (41%) และที่เหลือเป็นของบริษัทย่อยอื่น ปัจจุบันคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึก
ขณะที่เดือนตุลาคม 2567 บริษัทซื้อบจก. ลอคบอกซ์ กรุ๊ป (LOCKBOX) และบจก. ลอคบอกซ์ เวนเจอร์ส (LOCKVENT) ซึ่งประกอบธุรกิจให้เช่าตู้ล็อคเกอร์ ในราคา 360 ล้านบาท โดยมีค่าความนิยม 257 ล้านบาท (71% ของมูลค่าซื้อ) ซึ่งการประเมินมูลค่ายุติธรรมยังไม่แล้วเสร็จ อาจมีการปรับปรุงมูลค่าในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทมีประเด็นเรื่องความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง กรณีปี 2567 ขาดทุน 6,238 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3,283%) มีขาดทุนสะสม 8,152 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,103%) รวมทั้งบริษัทถูกสถาบันการเงินฟ้องคดีแพ่งจากการผิดนัดชำระหนี้ สรุปสาเหตุสำคัญที่บริษัทขาดทุนสูงมาก ดังนี้
(1) ผลกระทบจากการลงทุนใน TSR AS PTECH และบริษัทอื่น 5,731 ล้านบาท
(2) ขาดทุนจากการวัดค่าสินทรัพย์ทางการเงิน 111 ล้านบาท
(3) ขาดทุนจากการด้อยค่าธุรกิจและยกเลิกสัญญาทางธุรกิจ คือ (ธุรกิจที่ตั้งด้อยค่า ได้แก่ ธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่ายและเชื่อมต่อเข้าถึงลูกค้า ธุรกิจบริการด้านชำระเงินและระบบการเงินอิเลคทรอนิกส์ ธุรกิจให้บริการสินเชื่อและประกันภัย และธุรกิจให้บริการสำหรับองค์กรและไลฟ์สไตล์ / ธุรกิจที่ยกเลิกสัญญา ได้แก่ ธุรกิจบริการด้านชำระเงินและระบบการเงินอิเลคทรอนิกส์ และธุรกิจให้บริการสินเชื่อและประกันภัย) 416 ล้านบาท