DSI ได้เบาะแสใหม่ “หมอบุญ” หนีซุกประเทศเพื่อนบ้านใกล้ไทย เร่งประสานอินเตอร์โพลล่าตัว

ดีเอสไอเร่งล่าตัว "หมอบุญ" ชี้เป้ากบดานแถวประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่โบรกเกอร์สาวอีก 1 ราย หนีไปแถบตะวันออกกลางแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 8 เม.ย. 68 โดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมตัว นพ.บุญ วนาสิน ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน ว่า จากการสืบสวนและประสานงาน ไม่พบว่า นพ.บุญ พำนักอยู่ในประเทศจีนแล้ว เช่นเดียวกับโบรกเกอร์อีกรายที่ไม่น่าจะอยู่ในจีนเช่นกัน โดยคาดการณ์ว่าโบรกเกอร์รายดังกล่าวอาจหลบหนีไปยังแถบประเทศอาหรับ

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ดีเอสไอไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ประสานงานกับ ตำรวจสากล (Interpol) เนื่องจากมีการออก หมายแดง เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหา Interpol มีหน้าที่ในการสืบสวนในประเทศต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหาจะหลบซ่อนตัวอยู่ โดยขณะนี้มีเบาะแสว่า นพ.บุญ น่าจะหลบหนีอยู่ใกล้ประเทศไทยมากกว่า หรือ แถวประเทศเพื่อนบ้านของไทย

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาอาจต้องใช้ระยะเวลานาน เนื่องจากขึ้นอยู่กับการหลบซ่อนตัวและการปลอมแปลงตัวของ นพ.บุญ และโบรกเกอร์ที่ยังหลบหนี หากไม่มีข้อมูลที่อยู่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงหนังสือเดินทางและรูปพรรณ ก็จะยิ่งทำให้การติดตามเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า นพ.บุญ และโบรกเกอร์ที่เหลืออยู่ไม่ได้หลบหนีในที่เดียวกัน และดีเอสไอได้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หากทางการต่างประเทศทราบที่อยู่ ก็จะมีมาตรการดำเนินการต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุดในคดีนี้ คือการจับกุมตัว น.ส.ฐิติพร โบรกเกอร์สาวคนสนิทของ นพ.บุญ วนาสิน ได้ที่ประเทศจีนและนำส่งตัวมาที่ประเทศไทย  เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 โดยการจับกุมดังกล่าวเป็นผลมาจากการประสานงานของดีเอสไอไปยังองค์การตำรวจสากล จนมีการออกประกาศตำรวจสากลสีแดง และทางการจีนสามารถจับกุมตัวได้

สำหรับที่มาของคดี นพ.บุญ วนาสิน เกิดจากการที่ น.ส.ฐิติพร และพวก ได้เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมลงทุน โดยนำเงินมาให้ นพ.บุญ กู้ยืม และอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง แต่ต่อมากลับไม่จ่ายผลตอบแทนและไม่คืนเงินต้น ทำให้มีผู้เสียหายกว่า 605 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 16,000 ล้านบาท ดีเอสไอได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษเมื่อปลายปี 2567 และได้สรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอได้จับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว 13 คน และ น.ส.ฐิติพร ถือเป็นผู้ต้องหาคนที่ 14 ที่สามารถจับกุมได้.

Back to top button