TOP เด้ง 8% รับผู้ถือหุ้นไฟเขียว 6.3 หมื่นล. จ้างรับเหมาใหม่ เดินหน้าโครงการ CFP

TOP ดีดแรง 8% ลุยจ้างที่ปรึกษาประเมินงานโครงการ CFP ก่อนจัดหาผู้รับเหมาหลักรายใหม่ หลังผู้ถือหุ้นอนุมัติเพิ่มเงินลงทุน 63,028 ล้านบาท มั่นใจเสร็จตามแผน ขณะที่นโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ กระทบเล็กน้อย มองหากรัฐเจรจาการค้าจบเร็ว ตลาดน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัวช่วงครึ่งหลัง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 เม.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ณ เวลา 10:18 น. อยู่ที่ระดับ 23.20 บาท บวก 1.70 บาท หรือ 7.91% สูงสุดที่ระดับ 23.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 22.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165.72 ล้านบาท

นายบัณฑิต ธรรมประจจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ TOP เปิดเผยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ว่า ความคืบหน้าโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) ที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ให้เพิ่มเงินลงทุนจำนวน 63,028 ล้านบาทนั้น บริษัทจะดำเนินโครงการ CFP ให้แล้วเสร็จตามแผน

โดยการวางแผนการดำเนินงานส่วนที่เหลือของโครงการ CFP บริษัทได้จัดจ้างที่ปรึกษาทางเทคนิค ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ทำงานร่วมกับทีม เพื่อประเมินส่วนที่เหลือ ทั้งระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้แล้วเสร็จ หากมีความต้องการในการจัดหาผู้รับเหมาหลักรายใหม่ และผู้รับเหมาช่วง ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบเป็นไปตามสัญญา และมีกระบวนการในการที่จะประเมินความรู้ความสามารถ และความพร้อมของผู้รับเหมาอย่างละเอียด ซึ่งมีที่ปรึกษาอิสระร่วมกันกลั่นกรอง ให้เกิดความมั่นใจว่ากระบวนการคัดเลือกข้อกำหนดต่าง ๆ มีความเหมาะสม มีประสิทธิภาพประสิทธิผล เพื่อให้มั่นใจว่าจะดำเนินโครงการ CFP ต่อไปให้แล้วเสร็จได้

ขณะที่ แหล่งเงินทุนสำหรับโครงการ CFP บริษัทมีแผนเรื่องการจัดแบ่งเงินทุนเพื่อใช้สำหรับเงินลงทุนโครงการ CFP  จาก 2 ส่วนหลัก ๆ ส่วนแรกมาจากเงินสดคงเหลือและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งในก้อนนี้จะคิดเป็นประมาณ 1,200-1,700 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนที่สองจะเป็นหาแหล่งเงินทุนจากในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการออกหุ้นกู้ การกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ รวมถึงบริษัทจะพิจารณาหาเครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ เช่น การออกตราสารหนี้ที่มีลักษณะคล้ายทุน รวมถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ในส่วนของก้อนที่สองนี้คาดว่าจะได้เงินประมาณ 1,000-1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันและค่าการกลั่นปี 2568 คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลงจากปีก่อน เนื่องจากตลาดน้ำมันดิบจะมีอุปทานที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและนอนโอเปก แม้ว่าจะมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นแต่อุปทานเพิ่มมากกว่า ในขณะเดียวกันความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเติบโตช้าลง โดยเฉพาะหลังจากได้รับผลกระทบจากนโยบายการขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตามต้องจับตาดูมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่อาจมีผลต่อรัสเซีย อิหร่าน หรือเวเนซุเอลา ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบตึงตัวขึ้นได้ในอนาคต ในส่วนของค่าการกลั่น คาดว่าจะมีแนวโน้มที่อ่อนตัวลง

โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากผลกระทบการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ จะมีผลต่อราคาสินค้าเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทางนานาชาติจะสามารถเจรจากับสหรัฐฯ ได้เร็วแค่ไหน อาจจะช่วยในการลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดมีโอกาสฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง

อย่างไรก็ตาม ไทยออยล์ไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ มากนัก ซึ่งน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปที่บริษัทได้มีการนำเข้า-ส่งออกจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ เนื่องจากส่วนน้ำมันดิบได้ยกเว้นภาษีอากร ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปที่ส่งออกก็ได้ยกเว้นภาษีเช่นกัน รวมทั้งบริษัทส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปจำนวนน้อย และไม่ได้ส่งออกไปสหรัฐฯ แต่จะมีผลทางอ้อมการขึ้นภาษีตอบโต้ระหว่างคู่ค้าทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และจีน ทำให้เศรษฐกิจมีโอกาสที่จะชะลอตัว ดังนั้นส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเติบโตช้าลง ขณะเดียวกันกลุ่มโอเปกได้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้เป็นต้นมา ทำให้เห็นว่าราคาน้ำมันตอนนี้ปรับตัวลงในช่วงระยะสั้นพอสมควร น่าจะมีผลต่อเรื่องของกำไรและขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันของบริษัทได้

แนวโน้มค่าการกลั่นปีนี้มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงในระยะสั้น จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปกับน้ำมันดิบที่จะได้รับแรงกดดัน จากความต้องการใช้น้ำมันที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินดีเซลจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งนี้ต้องดูว่าทางประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ จะสามารถเจรจากับทางสหรัฐฯ ได้เร็วแค่ไหน จะช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก ทำให้ตลาดมีโอกาสที่จะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้” นายบัณฑิต กล่าว

นายบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า การซื้อหุ้นคืนนั้น ไทยออยล์มองว่าการซื้อหุ้นคืนเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงิน วัตถุประสงค์เพื่อการบริหารสภาพคล่องของบริษัทในกรณีที่ราคาหุ้นของบริษัทอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น และบวกกับบริษัทมีกำไรสะสมและมีสภาพคล่องที่สูงกว่าความต้องการใช้เงินช่วงนั้น ๆ การซื้อหุ้นคืนจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่บริษัทจะนำมาใช้

ขณะที่ ไทยออยล์ยังอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ CFP มีความจำเป็นต้องนำสภาพคล่องส่วนเกินสำรองเก็บเอาไว้ใช้ในการลงทุนโครงการ CFP ดังนั้นบริษัทจึงยังไม่ได้พิจารณาเรื่องของการซื้อหุ้นคืน เพราะเชื่อว่าการดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน และเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการเติบโตทางธุรกิจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ถือหุ้น

นอกจากนี้ ปี 2568 ไทยออยล์จะมีแผนหยุดซ่อมบำรุงจ่ายตามวาระในไตรมาสที่ 3/2568 อาทิ หน่วยกลั่นน้ำมันดิบหน่วยที่ 3 ส่งผลให้อัตราการกลั่นในปีนี้จะปรับตัวลดลง แต่ยังอยู่ในระดับที่มากกว่า 100% เนื่องจากบางบริษัทมีแผนหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่ 3 เพียง 30 วัน ในขณะที่หน่วยกลั่นน้ำมันดิบที่เหลือยังเดินเครื่องเต็มที่ตามกำลังการผลิต นอกจากนี้ยังมีหน่วยที่ไม่ได้ปิดซ่อมบำรุงเตรียมความพร้อม โดยการผลิตเต็มกำลังการผลิตประมาณ 110% เพื่อรักษาอัตราการผลิตของปีนี้ให้อยู่ในระดับที่สูงกว่า 100%

Back to top button