CHAO-TKN วิ่งต่อ! โบรกเชียร์ดีล “เถ้าแก่น้อย” ถือหุ้น หนุนศักยภาพธุรกิจร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 เม.ย.68) ณ เวลา 10:24 น. ราคาหุ้น บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO อยู่ที่ระดับ 5.55 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 5.71% สูงสุดที่ระดับ 5.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19.02 ล้านบาท

บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN อยู่ที่ระดับ 7.70 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 1.32% สูงสุดที่ระดับ 7.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น CHAO และ TKN ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ หลัง TKN รายงานการซื้อหุ้น CHAO จำนวน 177,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.059% หนุนถือหุ้นรวมทั้งหมด 14,287,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.7626% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท จากเดิมถือหุ้นจำนวน 14,110,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.7036% ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของ CHAO

ด้านนางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAO เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 10 เมษายน 2568 SAGAR CAPITAL PTE. LTD. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 (ตามรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 13 มีนาคม 2568) ได้เทขายหุ้น CHAO ที่ถืออยู่ออกมาทั้งหมด จำนวน 28,491,100 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 9.50% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และไม่เหลือสัดส่วนการถือหุ้นใน CHAO ต่อไป

ขณะที่ LGT BANK (SINGAPORE) LTD เข้ามาถือหุ้น CHAO จำนวน 16,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 5.33% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2  (วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 10 เมษายน 2568) และ TKN ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 3 ของ CHAO ถือหุ้นรวม 13,128,100 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.38% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ส่วนบริษัท เจ้าสัว กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ยังเป็นผู้ถือหุ้น CHAO อันดับ 1 ถือหุ้นจำนวน 136,800,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 45.60% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด  ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นใหญ่ดังกล่าว ไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอำนาจการควบคุม  โครงสร้างคณะกรรมการและผู้บริหาร ตลอดจนนโยบายการดำเนินธุรกิจ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า การที่ TKN เข้ามาถือหุ้น CHAO ที่ระดับ 5% นั้น มีโอกาสที่ทั้ง TKN และ CHAO จะมีการเสริมศักยภาพของธุรกิจซึ่งกันและกัน เนื่องจากทั้ง 2 บริษัท แม้ว่าจะอยู่ในกลุ่มธุรกิจขนมขบเคี้ยวเหมือนกัน แต่ประเภทของสินค้าและจุดเด่นของแต่ละแบรนด์แตกต่างกัน จึงอาจจะมีการทำธุรกิจที่เสริมศักยภาพซึ่งกันและกันได้ หรืออาจออกสินค้าใหม่ที่มีการพัฒนาร่วมกัน เหมือนกับเมื่อครั้งที่บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR เข้าถือหุ้น TKN สัดส่วน 10% มีการผลิตและจัดจำหน่ายป๊อปคอร์นร่วมกัน

ขณะที่ ทั้ง CHAO และ TKN มีโรงงานผลิตของตนเอง อาจเสริมกันได้ในด้านการผลิตในอนาคตด้วย รวมถึงช่องทางการขายและการทำการตลาดร่วมกัน มองว่าทั้ง CHAO และ TKN จะได้รับประโยชน์ร่วมกันในดีลครั้งนี้ รวมถึงการใช้เครือข่ายของ TKN ในการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม ทั้งประเทศเดิมที่ทำตลาดอยู่แล้ว และในประเทศใหม่ที่ CHAO ไม่ได้เข้าไปทำตลาดมาก่อน