
CFARM บวกแรง 11% ย้ำกำไรปี 68 โต รับรายได้ “ฟาร์มวัวนม” หนุน
CFARM วิ่งคึก 11% ลุ้นกำไรปี 68 โตกว่าปีก่อน รับแรงหนุนจากธุรกิจ “ฟาร์มวัวนม” คาดปีแรกกวาดรายได้ 600 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 เม.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM ณ เวลา 10:51 น. อยู่ที่ระดับ 0.88 บาท บวก 0.09 บาท หรือ 11.39% สูงสุดที่ระดับ 0.94 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.60 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ นางสาวมธุชา จึงธนสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการจัดการ CFARM เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์กำไรสุทธิปี 68 จะกลับสู่ระดับปกติสูงกว่าปี 67 ที่มีกำไรสุทธิ 10.14 ล้านบาท และสูงกว่าปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 30.49 ล้านบาท ซึ่งอยู่บนพื้นฐานธุรกิจฟาร์มไก่เนื้อระบบคอนแทรคฟาร์ม (Contract Farming) จะมีรอบการเลี้ยงปกติ อัตราการรอด และน้ำหนักเฉลี่ยที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม และมีประสิทธิภาพกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ปี 2567 เป็นปีที่บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเข้ามาค่อนข้างมาก ทำให้กดดันกำไรลดเหลือ 10.14 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในปี 67 ผลการดำเนินงานปี 67 มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) สูงประมาณ 60 ล้านบาท ภายใต้ 3 รอบการเลี้ยงรวม 1.3 ล้านตัว กำลังผลิต 15.88 ล้านตัวต่อปี ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้า แต่อัตราการเลี้ยงรอดดีขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 95.6% และไก่มีน้ำหนักเฉลี่ย 2.8 กิโลกรัมต่อตัว ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรม และมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่คงที่
สำหรับโครงการฟาร์มวัวนม จะลงทุนในพื้นที่ 300 ไร่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยในไตรมาส 1/2568 มีการปรับหน้าดินเสร็จแล้ว และดำเนินการก่อสร้างโรงเรือนแบบปิดควบคุมอุณหภูมิ เพื่อลดปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน และเพื่อประสิทธิภาพของอัตราการให้นมต่อวัน ขณะที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสรุปการนำเข้าสายพันธุ์วัว, อุปกรณ์เลี้ยงวัว รีดนมวัว และอื่น ๆ ซึ่งกำหนดในไตรมาส 1/2569 ผลิตน้ำนมดิบเริ่มต้นล็อตแรก 1,250 ตัว เพื่อส่งให้กับคู่ค้าทันที ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อ (Order) รองรับแล้ว
ทั้งนี้ ธุรกิจฟาร์มวัวนม คาดว่าจะมีรายได้ปีแรกอยู่ที่ 600 ล้านบาท 2 เท่าธุรกิจฟาร์มไก่เนื้อ และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 6 เท่า และ EBITDA เพิ่มขึ้น 3 เท่า ส่วนธุรกิจฟาร์มไก่เนื้อคาดรายได้ไว้ที่ 294.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 31.6 ล้านบาท มี EBITDA 92.6 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้ของฟาร์มวัวนมจะเป็นรายได้รายวัน ต่างจากรายได้ธุรกิจฟาร์มไก่เนื้อที่รับรู้เป็นรอบการเลี้ยง ประมาณ 70-75 วันต่อรอบการเลี้ยง เชื่อว่าจะสามารถช่วยเพิ่มรายได้มากขึ้น
“การลงทุนโครงการฟาร์มวัวนม บริษัทได้มีการศึกษาและพิจารณาแล้วว่าสร้างผลตอบแทนได้ดี และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งในปีแรกธุรกิจโคนมจะสร้างฐานรายได้ 2 เท่าของรายได้ธุรกิจฟาร์มไก่ ส่วนกรณีงดจ่ายปันผล เนื่องจากต้องการนำกำไรสุทธิไปลงทุนในโครงการฟาร์มวัวนม คาดว่าจะสร้างกำไรได้เร็วและกลับมาจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นโดยเร็ว ในอัตราไม่ต่ำกว่า 40%” นางสาวมธุชา กล่าว