OSP ปิดบวก 3% โบรกชี้ Q1 กำไรนิวไฮ 1.2 พันลบ. บุ๊กพิเศษขายโรงงานแก้ว

OSP ปิดบวก 3% โบรกคาดกำไรไตรมาส 1/68 นิวไฮแตะ 1.2 พันล้านบาท หลังรับรู้บุ๊กพิเศษขายโรงงานแก้วหนุน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (24 เม.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ปิดตลาดที่ระดับ 15.20 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.40% สูงสุดที่ระดับ 15.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 14.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 222.46 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง OSP แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/68 จะสูงกว่าที่เคยคาดและทำนิวไฮ เพราะคาดอัตรากำไรขั้นต้นอาจทำนิวไฮถึง 40% และจะมีกำไรขายโรงงานแก้วราว 250 ล้านบาท มากกว่าที่เคยคาดไว้

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์มองว่าในไตรมาสนี้รายได้เครื่องดื่มชูกำลังในประเทศยังลดลงจากไตรมาสก่อนและจากปีก่อนหน้า เพราะยังมีการปรับสต็อก แต่รายได้ต่างประเทศอยู่ในทิศทางที่ดี เบื้องต้นคาดรายได้รวมโตจากไตรมาสก่อน แต่น่าจะลดลงจากปีก่อนหน้า

ขณะที่ ปัจจัยบวกที่น่าสนใจ คือ แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ (New High) ที่ประมาณ 40% เพิ่มขึ้นจากระดับ 38.5% ในไตรมาส 4/67 และ 36.5% ในไตรมาส 1/67 อีกทั้ง ยังสูงกว่าเป้าหมายทั้งปี 68 ที่บริษัทตั้งไว้ที่ 37% การปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นดังกล่าวมาจากสองปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.การปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ (Product Mix) ที่ดีขึ้น จากการเติบโตของรายได้ในตลาดต่างประเทศ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Personal Care ที่มีอัตรากำไรสูง

2.ต้นทุนวัตถุดิบหลักและบรรจุภัณฑ์ (Raw Materials และ Packaging Materials) ในกลุ่มเครื่องดื่มที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1/68 บริษัทคาดว่าจะรับรู้กำไรพิเศษจากการขาย โรงงานผลิตแก้ว ซึ่งจะช่วยหนุนกำไรสุทธิให้แตะระดับสูงสุดใหม่ (New High) ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120% จากไตรมาสก่อนหน้าและ 50% จากปีก่อนหน้า หากตัดรายการพิเศษออก คาดว่ากำไรปกติ (normalized profit) จะอยู่ที่ประมาณ 997 ล้านบาท เติบโต 62% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 20% จากปีก่อนหน้า

ทั้งนี้ มองว่ากำไรที่ดีในไตรมาส 1/68 อาจเป็นพีคของปีนี้แล้วเพราะคาดรายได้ต่างประเทศในไตรมาส 2/68 น่าจะลดลงจากไตรมาสก่อน พร้อมทั้งจะลดลงตามฤดูกาล แม้จะมี orders บางส่วนเลื่อนมาจากไตรมาส 1 หลังเกิดแผ่นดินไหวตอนปลาย มี.ค. และคาดอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 2/68 จะลดลงจากไตรมาสก่อนหลังเริ่มถูกกระทบจาก product mix ที่เปลี่ยน หลังสัดส่วนรายได้ 10 บาท สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังคิดว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 ยังอยู่ในระดับที่ราว 700-800 ล้านบาท และจะมี upside จากเลขนี้หรือไม่ จะต้องมาจากส่วนแบ่งการตลาดและรายได้ของ 10 บาท ฝาเหลืองเป็นหลัก ว่าจะสามารถทำได้ตามแผนของบริษัทหรือไม่

นอกจากนี้ คาดการณ์กำไรปกติไตรมาส 1/68 จะคิดเป็น 33% ของประมาณการทั้งปี แต่ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 68 ตามเดิมที่ 3 พันล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อนหน้า โดยยังคงมุมมองที่ conservative ต่อแนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปี จนกกว่าจะเห็นการฟื้นตัวของรายได้เครื่องดื่มชูกำลังในประเทศฟื้นตัวชัดเจนก่อน ยังคงเป้าเดิมที่ 24 บาท

Back to top button