PPS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 300 ลบ.ปรับกลยุทธ์เน้นรับงานวิศวกรที่ปรึกษากลุ่ม AEC

PPS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 300 ลบ.ปรับกลยุทธ์เน้นรับงานวิศวกรที่ปรึกษากลุ่ม AEC


นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายในการรับงานที่หลากหลายมากขึ้น ทั้ง 3 ส่วน ประกอบด้วย งานในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) งานภาครัฐ ภาคเอกชน เพราะหากอนาคตงานส่วนไหนมีปัญหา ก็จะมีอีกส่วนคอยเสริมรายได้ให้กับบริษัทและสร้างการเติบโตได้อย่างมั่นคง ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากลูกค้าใน AEC 10% งานภาครัฐ 30% งานภาคเอกชน 70% และรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 35%”นายธัชกล่าว

กลยุทธ์ในปีนี้บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การดำเนินงาน เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและรองรับการชะลอตัวของงานในประเทศ โดยบุกตลาดในกลุ่ม AEC มากขึ้น ปัจจุบันได้เริ่มเข้าไปรับงานในลาว กัมพูชา มาเลเซีย และอยู่ระหว่างเดินหน้าขยายตลาดในพม่า มุ่งเน้นหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมแนะนำธุรกิจและบริการของ PPS ให้เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้ารับงานในอนาคต

ส่วนงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างในประเทศ บริษัทเริ่มเข้ารับงานภาคเอกชนมากขึ้นโดยเป็นโครงการก่อสร้างในภาคธุรกิจค้าปลีก โรงพยาบาล คอนโดมีเนียม ขณะที่งานก่อสร้างในภาคไอที และท่องเที่ยวยังอยู่ระหว่างการเสนองาน ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมืออยู่ที่ 300 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2561

สำหรับงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลโครงการท่าอากาศยานสุวรรณ-ภูมิเฟสสองได้ภายในไตรมาส 2 และโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินในไตรมาส 3 ซึ่ง PPS มีประสบการณ์การทำงานดังกล่าวเป็นอย่างดี และมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการด้วยเช่นกัน

ขณะที่ผลประกอบการปี 58 มีรายได้รวมจำนวน 238.92 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 266.81 ล้านบาท หรือลดลง 10% และมีกำไรสุทธิจำนวน 3.39 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 17.72 ล้านบาท หรือลดลง 81%

ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ การลงทุนโครงการก่อสร้างทั้งของภาครัฐและเอกชนมีการชะลอตัว ส่งผลให้ปริมาณงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทปรับตัวลดลงตาม อีกทั้งขนาดของโครงการของกลุ่มลูกค้าในบางธุรกิจมีขนาดเล็กลง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถทำกำไรได้ในระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากมีการบริหารจัดการต้นทุนในด้านต่างๆ ที่สอดคล้องกับสภาวะของธุรกิจ

Back to top button