ราคาทองคำปิดวานนี้พุ่ง 14 ดอลล์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ นักลงทุนยังหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วยการเข้าซื้อทองคำ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนม.ค.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด (29 ก.พ.) พุ่งขึ้น 14 ดอลลาร์ หรือ 1.15% แตะระดับ 1,234.40 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดบวก 20.4 เซนต์ หรือ 1.39% แตะที่ 14.918 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 19.2 ดอลลาร์ หรือ 2.1% แตะที่ 934.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดพุ่งขึ้น 13.20 ดอลลาร์ หรือ 2.7% แตะที่ 495.65 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วยการเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 2.5% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 106 ในเดือนม.ค. โดยได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาว, สต็อกบ้านที่มีอยู่จำกัด และราคาบ้านที่พุ่งสูง
ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเขตชิคาโก หดตัวลงสู่ระดับ 47.6 ในเดือนก.พ. โดยรับผลกระทบจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ปรับตัวลง ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 54.0 ในเดือนก.พ. ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิต ขณะที่ดัชนีที่อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคการผลิต