“ฐากร” ยัน JAS หมดสิทธิบิดพลิ้วค่าใบอนุญาต 4G

ADVANC ซิม 2G ดับหลัง TRUE ได้รับใบอนุญาต JAS หมดสิทธิ์แบ่งชำระเงินงวดแรก


นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทางคลื่นวิทยุ FM 98.5 MHz ถึงกรณี บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ซึ่งอยู่ในเครือของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC ที่มีการขอให้ทางกสทช.พิจารณาออกมาตรการเยียวยาสำหรับการขยายเวลาในการใช้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อให้บริการระบบ 2G แก่ลูกค้าของทางบริษัทต่อไปอีกระยะ

โดยวานนี้ (29 ก.พ.) AWN ได้ทำหนังสือส่งมายัง กสทช. อีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอให้มีการพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งทาง กสทช. ได้รับเรื่องไว้ แต่มองว่า มติที่ประชุมคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากก่อนหน้า เนื่องด้วยข้อกำหนดบ่งชี้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่า สิทธิในการใช้คลื่นดังกล่าวจะถูกโอนมาเป็นของผู้ชนะการประมูล ทันทีที่มีการชำระเงินงวดแรกพร้อมกับนำแบงก์การันตีมาวางไว้กับทาง กสทช.

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ซิม 2G ดับจะยังไม่เกิดขึ้นในทันทีหลังจากมีการชำระเงิน โดย นายฐากร ระบุว่า ทาง กสทช. ต้องใช้เวลาประมาณ 3 วันสำหรับทำการออกใบอนุญาต ซึ่งล่าสุด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ชนะการประมูลได้ทำการติดต่อมายัง กสทช. เพื่อขอนัดชำระเงินแล้ว โดยยืนยันว่า ไม่เกิน วันที่ 10 มีนาคม ที่จะถึงนี้

ขณะเดียวกัน สำหรับกระแสข่าวเรื่อง บริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด ในเครือของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ขอขยายเวลาการชำระเงิน หรือแบ่งการชำระเงินออกเป็นงวดนั้น นายฐากร ระบุว่า “ไม่สามารถทำได้” ด้วยข้อกำหนดที่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรก อย่างไรก็ดี บริษัทสามารถยื่นคำเสนอขอพิจารณาในประเด็นดังกล่าวเข้ามาได้ เนื่องจากหากมีเหตุการณ์สุดวิสัย อาทิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เกิดขึ้นจนส่งผลให้ไม่สามารถทำการชำระเงินได้ทันเวลา ทาง กสทช. อาจดำเนินการแก้ไขข้อบังคับเป็นกรณีพิเศษได้

ทั้งนี้ หากทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ และทางบริษัทไม่สามารถชำระเงินค่าประมูลได้ตามกำหนด ภายในวันที่ 21 มีนาคมนี้ บริษัทจะถูกยึดเงินประกันจำนวน 644ล้านบาท พร้อมกับถูกฟ้องร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงการประกอบธุรกิจบรอดแบรนด์ก็จะถูกผลกระทบไปด้วย โดยทาง กสทช. มีความจำเป็นต้องนำใบอนุญาตมาทำการประมูลใหม่หากเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

อย่างไรก็ตาม นาย ฐากร มองว่า JAS จะสามารถนำเงินมาชำระได้ทันก่อนกำหนด และหากแม้จะต้องขอรับการสนับสนุนด้านการเงินจากสถาบันต่างประเทศ ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นสถาบันการเงินต่างชาติที่มีสาขาในประเทศไทยเท่านั้น

Back to top button