ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 348 จุด! รับข้อมูลศก.สหรัฐฯแข็งแกร่ง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (1 มี.ค.) โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 8 ปี และภาคการผลิตที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนก.พ. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (1 มี.ค.) ที่ 16,865.08 จุด พุ่งขึ้น 348.58 จุด หรือ +2.11%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,689.60 จุด เพิ่มขึ้น 131.65 จุด หรือ +2.89% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,978.35 จุด เพิ่มขึ้น 46.12 จุด หรือ +2.39%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.5% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 1.14 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2007 โดยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแข็งแกร่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4%
ด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ภาคการผลิตของสหรัฐมีการปรับตัวดีกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 49.5 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2015 เพิ่มขึ้นจากระดับ 48.2 ในเดือนม.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมัน WTI ที่ดีดตัวขึ้นราว 1.9% ขานรับข่าวที่ว่า รัสเซียใกล้มีการบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการจำกัดการผลิตน้ำมัน โดยการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นในการประชุมในเดือนนี้
หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้นกว่า 3% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับตัวขึ้นกว่า 5% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 5.3% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปรับขึ้น 3.8%, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น โดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 เดือน หุ้นเฟซบุ๊ก และหุ้นไมโครซอฟท์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.7% หุ้นซีเกท เทคโนโลยี และหุ้นเวสเทิร์น ดิจิตอล ปรับตัวขึ้นกว่า 5.9% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน รวมถึงหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี หุ้นอานาดาร์โค ปิโตรเลียม และหุ้นเรนจ์ รีซอส
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนทั่วประเทศของสหรัฐเดือนก.พ. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book วันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค. ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค.