ราคาทองคำปิดวานนี้พุ่งกว่า 12 ดอลล์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดส่งออกและยอดนำเข้าเดือนม.ค.ร่วงลงอย่างหนัก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด (4 มี.ค.) พุ่งขึ้น 12.5 ดอลลาร์ หรือ 0.99% แตะที่ 1,270.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และในตลอดสัปดาห์ สัญญาทองคำพุ่งขึ้นทั้งสิ้น 4.1%, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดบวก 54.8 เซนต์ หรือ 3.62% แตะที่ 15.694 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 43.6 ดอลลาร์ หรือ 4.63% แตะที่ 986.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 20.80 ดอลลาร์ หรือ 3.8% แตะที่ 563 ดอลลาร์/ออนซ์
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 4.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการส่งออกสินค้าร่วงลง 3.3% สู่ระดับ 1.169 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2010 ขณะที่การนำเข้าลดลง 1.6% สู่ระดับ 1.806 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2011 ทั้งนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากรายงานล่าสุดของกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ปรับตัวลดลง 3 เซนต์ในเดือนก.พ. สู่ระดับเพิ่มขึ้น 2.2% โดยชะลอตัวลงจากระดับ 2.5% ในเดืนม.ค.
สำหรับข้อมูลแรงงานหลักๆ นั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 242,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 190,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี