ดอลล์อ่อนค่า ราคาน้ำมันพุ่งหนุนแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโร


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงายว่า ค่าเงินยูโร (7 มี.ค.) แข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1012 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0995 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4261 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4213 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.28 เยน จาก 114.03 เยน แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9952 ฟรังก์ จาก 0.9950 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7470 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7426 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงติดต่อกันหลายวันทำการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 4.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกสินค้าร่วงลง 3.3% สู่ระดับ 1.169 แสนล้านดอลลาร์

สำหรับปัจจัยล่าสุดที่กดดันให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรนั้น มาจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งรวมถึงสกุลเงินยูโร โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 5% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ ปรับตัวลดลง 25,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.077 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนม.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนก.พ. และราคาส่งออกและนำเข้าเดือนก.พ.

Back to top button