น้ำมันดิบปิดร่วงจากคาดการณ์สต็อกพุ่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด (8 มี.ค.) ร่วงลง 1.4 ดอลลาร์ หรือ 3.7% แตะที่ระดับ 36.5 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 2.9% แตะที่ระดับ 39.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากนักวิเคราะห์หลายจำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เตรียมเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย จะพุ่งขึ้น 3 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสถาบันปิโตรเลียม (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. พุ่งขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.พ. ร่วงลง 20.6% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 8.218 แสนล้านหยวน (1.263 แสนล้านดอลลาร์) ขณะที่ยอดการนำเข้าลดลง 8% สู่ระดับ 6.123 แสนล้านหยวน ส่วนยอดเกินดุลการค้าต่างประเทศเดือนก.พ.ของจีน ร่วงลง 43.3% เทียบรายปี สู่ระดับ 2.095 แสนล้านหยวน จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 4.063 แสนล้านหยวน
ด้านมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกรายงานเตือนเมื่อวานนี้ว่า การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมัน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน จะเป็นปัจจัยกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก