ยูโรแข็งค่าหลังอีซีบีส่งสัญญาณยุติการลดดอกเบี้ย

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 มี.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าอาจจะยุติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ภายหลังจากที่ ECB ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (10 มี.ค.) แข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1206 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1010 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.4290 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4221 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 112.99 เยน จาก 113.33 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9821 ฟรังก์ จาก 0.9970 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7450 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7511 ดอลลาร์

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากนายดรากี ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในอนาคต “อัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม้สิ้นสุดช่วงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนมี.ค.2017 แต่จากมุมมองในวันนี้ และจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของ ECB เราจึงไม่คาดว่าจะมีความจำเป็นที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป” นายดรากีกล่าว

ส่วนในการประชุมเมื่อวานนี้ ECB ได้ประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินครั้งใหญ่ รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร สู่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 0.05% ก่อนหน้านี้ และได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB สู่ระดับ -0.4% จากเดิมที่ -0.3% นอกจากนี้ ECB ยังได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE สู่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากเดิมที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน

Back to top button