NPP มั่นใจปีนี้ Turnaround เตรียมรับรู้รายได้-กำไรจาก 3 ธุรกิจหลัก

นายสุรพงษ์  เตรียมชาญชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอนแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในปีนี้ จะมีการเติบโตที่เด่นชัดมากขึ้น และสามารถพลิกกลับมาถึงจุดคุ้มทุนแน่นอน เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนจัดโครงสร้างทางธุรกิจต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในช่วงต่อจากนี้จะเป็นการรับรู้รายได้และกำไรทั้งจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ ธุรกิจอาหาร และธุรกิจสื่อโฆษณา   

ทั้งนี้ คาดว่าธุรกิจอาหารจะมีการเติบโตสูงสุดในเครือ NPP เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรอยู่ในเกณฑ์ดี อีกทั้งมีโอกาสในการขยายธุรกิจได้ค่อนข้างรวดเร็ว เพราะอาหารเป็นปัจจัยหลักในชีวิตประจำวันที่เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างหลากหลาย  สามารถขยายตัวได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งธุรกิจอาหารที่บริษัทลงทุนไปสามารถรับรู้รายได้ทันที

ล่าสุด บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (NPP FOOD) บริษัทในเครือ NPP ได้ลงนามสัญญาซื้อขาย บริษัท มิยาบิ กริลล์ จำกัด (MIYABI) ร้านอาหารญี่ปุ่นแล้วเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 59 ด้วยจำนวนเงิน 55 ล้านบาท โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท กำหนดการโอนทรัพย์สินและสิทธิ ในวันที่ 1 มี.ค. 59 โดย NPP FOOD จะเป็นผู้ถือสิทธิในการบริหาร และถือครองทรัพย์สินของร้านมิยาบิ จำนวน 5 สาขา ประกอบด้วย 1. สยามสแควร์ 2. ซีคอนสแควร์ 3. เดอะมอลล์ บางแค 4. เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และ      5. เซ็นทรัล ศาลายา

โดยการลงทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม และเพื่อให้ NPP FOOD มีธุรกิจที่หลากหลาย และสามารถใช้บุคคลากรที่มีอยู่แล้วได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งร้านมิยาบิ เป็นธุรกิจอาหารที่มีศักยภาพ ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ที่นิยมรับประทานอาหารปิ้งย่างกันมากขึ้น จึงเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทที่ได้รับสิทธิในการบริหารหลังจากนี้

ด้านนายวิชัย เจริญธรรมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นพีพี ฟู้ด อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แผนงานของร้านมิยาบิในเบื้องต้น บริษัทจะมีการปรับปรุงระบบการบริหารเป็นแบบ Casual Dining บริการอาหารที่โต๊ะให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับการปิ้งย่างแบบไม่ขาดตอน พร้อมเพิ่มเมนูอาหารให้มีความหลากหลาย ภายใต้แนวคิด “อาหารญี่ปุ่นแท้ ถูกปากคนไทย” ซึ่งได้พัฒนาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนไทย โดยอิงข้อมูลจากผลการวิจัย นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 2 สาขา โดยจะใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นบริษัทประเมินว่าร้านมิยาบิทั้ง 5 สาขาจะสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยปีละ 100 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลาไม่เกิน 3 ปี