น้ำมันดิบปิดลบหลัง API เผยสต็อกในสหรัฐฯพุ่ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) หลังจากสถาบันปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาด


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด (15 มี.ค.) ลบ 84 เซนต์ หรือ 2.3% แตะที่ 36.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลบ 79 เซนต์ หรือ 2% แตะที่ 38.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจาก API รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 มี.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล ข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด พร้อมกับจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย

ตลาดยังคงได้รับปัจจัยลบจากข่าวที่ว่า อิหร่านได้แสดงความมุ่งมั่งที่เพิ่มการผลิตน้ำมันขึ้นสู่ระดับ 4 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับที่อิหร่านสามารถผลิตได้ก่อนที่จะถูกคว่ำบาตรจากกลุ่มชาติตะวันตก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มโอเปกออกรายงานปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันของโอเปกในปีนี้ สู่ระดับ 31.5 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 100,000 บาร์เรล/วันจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว และเทียบเท่ากับการเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ขณะเดียวกัน โอเปกมองว่ายังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มากสำหรับอุปสงค์น้ำมันในยุโรปในปีนี้ โดยการขาดดุลงบประมาณในหลายประเทศ และนโยบายการเพิ่มภาษีพลังงาน จะสร้างความเสี่ยงในช่วงขาลง แหล่งข่าวจากกลุ่มโอเปกระบุว่า การประชุมของกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่ม มีแนวโน้มที่จะมีขึ้นในกลางเดือนหน้าที่กรุงโดฮา เพื่อหาข้อตกลงในการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันเพื่อทำให้ราคาฟื้นตัวขึ้น

Back to top button