ดาวโจนส์ปิดบวก 74 จุด รับเฟดหั่นคาดการณ์ขึ้นดบ.ปีนี้

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และได้ลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลงเหลือเพียง 2 ครั้ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 5%


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (16 มี.ค.) ที่ 17,325.76 จุด เพิ่มขึ้น 74.23 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,763.97 จุด เพิ่มขึ้น 35.30 จุด หรือ +0.75% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,027.22 จุด เพิ่มขึ้น 11.29 จุด หรือ +0.56%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้น โดยได้รับแรงหนุนหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติ 9-1 ในการประชุมเมื่อวานนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการเฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 2 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้ง โดยการลดคาดการณ์จำนวนครั้งของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ บ่งชี้ว่าเฟดมีความระมัดระวังเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการขยายตัวที่อ่อนแอในต่างประเทศ และตลาดการเงินที่ผันผวน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสำหรับปี 2016-2018 โดยได้ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลง 0.50% สู่ระดับ 0.88% ส่วนในปี 2017 ได้ปรับลดลง 0.50% สู่ระดับ 1.88% ขณะที่ปี 2018 ปรับลดลง 0.38% สู่ระดับ 3.00% ส่วนอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวมีการปรับลดลง 0.25% สู่ระดับ 3.25%

หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 5.8% ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะพุ่งขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล

ทั้งนี้ หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 10.3% หุ้นอัลโค อิงค์ ปรับขึ้น 6.3% หุ้นเชฟรอนดีดตัวขึ้น 1.2% ส่วนหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 8.8%, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นแอปเปิล อิงค์ และหุ้นไมโครซอฟท์ คอร์ป ซึ่งต่างก็ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1.3% ขณะที่หุ้นออราเคิลทะยานขึ้น 13% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึง จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดุลบัญชีเดินสะพัดช่วงไตรมาส 4/2558 และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.จาก Conference Board

Back to top button