KBS คาดปีนี้พลิกกำไร เร่งหาแหล่งทุนทำ Sugar Energy Complex
KBS คาดผลงานปีนี้พลิกกำไร แนวโน้มราคาน้ำตาลสูงขึ้น เผยอยู่ระหว่างหาแหล่งทุนทำ Sugar Energy Complex
นายทัศน์ วนากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในปี 59 จะพลิกมีกำไรสุทธิจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 50.18 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำตาลดิบในตลาดโลกเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินเรียลของบราซิล โดยบริษัทประเมินราคาน้ำตาลดิบเฉลี่ยทั้งปีในตลาดโลกจะมากกว่า 15 เซ็นต์/ปอนด์ จากเฉลี่ยปีก่อนที่ 15 เซ็นต์/ปอนด์
อีกทั้งในปัจจุบันความต้องการน้ำตาลทรายดิบมีมากกว่าปริมาณการผลิตน้ำตาลทรายดิบ ส่งผลให้ราคาขายน้ำตาลทรายดิบมีแนวโน้มสูงขึ้น และทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาวัตถุดิบกับราคาขายน้ำตาลทรายดิบปรับเพิ่มขึ้นเป็น 108 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีก่อนที่ 104 เหรียญสหรัฐ/ตัน รวมไปถึงราคาน้ำตาลทรายขาวพรีเมี่ยมที่ปัจจุบันปรับตัวมาอยู่ที่ 900-100 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีก่อนที่ 60 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลดีต่อกำไรของบริษัท
“ทิศทางราคาน้ำตาลมองว่าน่าจะผ่านจุด Bottom ไปแล้ว จากปีก่อนที่ค่าเงินบราซิลอ่อนค่าลงมาอย่างแรง แต่ตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าค่าเงินบราซิลเริ่มแข็งค่าขึ้น อีกทั้งความต้องการน้ำตาลยังมีมากกว่าปริมาณที่ผลิตออกมาได้ ทำให้ราคาน้ำตาลเริ่มทยอยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเรามองว่าราคาน้ำตาลทรายดิบปีนี้จะมากกว่า 15 เซ็นต์/ปอนด์ ในปีก่อน”นายทัศน์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มผลิตของไลน์ซีที่มีกำลังการผลิต 1.2 หมื่นตันอ้อย/วัน ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตรวมในปีนี้ 2.5-2.6 หมื่นตันอ้อย/วัน ประกอบกับการปิดหีบอ้อยของบริษัทในปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.6 ล้านตัน จากปีก่อนที่ 2.2 ล้านตัน คาดว่าจะส่งผลดีต่อรายได้ของบริษัทที่ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 7-8% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 6.73 พันล้านบาท
ด้านการลงทุนโครงการ Sugar Energy Complex ที่อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มูลค่ารวมทั้ง 2 เฟส กว่า 1 หมื่นล้านบาทนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาหาแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการลงทุนในเฟสแรกก่อนที่ 5 พันล้านบาท โดยในเฟสแรกจะมีกำลังการผลิตน้ำตาลทราย 20,000 ตัน/วัน กำลังการผลิตเอทานอล 200,000 ลิตร/วัน และกำลังการผลิตไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ สำหรับแนวทางที่จะหาแหล่งเงินลงทุน ได้แก่ การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน โดยบริษัทยังมีความสามารถในการกู้ยืมได้อยู่มาก เพราะมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ในระดับต่ำที่ 1.2 เท่า ,การเพิ่มทุน และการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งบริษัทจะลดสัดส่วนการถือหุ้นจาก 100% เป็น 50-70% แล้วแต่ความเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เจรจากับพันธมิตรที่สนใจลงทุน ซึ่งเป็นพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่ชัดได้ว่าจะได้ข้อสรุปของแหล่งเงินทุนได้เมื่อใด แต่รายละเอียดของโครงการ Sugar Energy Complex จะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายใน 3 ปี แบ่งเป็นการใช้เวลาการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อวิ่งแวดล้อม (EIA) 1.5 ปี และระยะเวลาในการก่อสร้างอีกก่อสร้าง 1.5 ปี ส่วนในเฟสที่ 2 บริษัทตั้งเป้ามีกำลังการผลิตของทั้ง 3 ประเภทเพิ่มเป็น 2 เท่าจากเฟสแรก ซึ่งจะลงทุนหลังเฟสแรกเปิดดำเนินการผลิต
ส่วนโครงการโรงงานผลิตเอทานอล 200,000 ลิตร/วัน ของบริษัทที่อ.ครบุรี จ.นครราชสีมานั้น บริษัทได้ชะลอแผนการลงทุนโครงการดังกล่าวออกไป หลังไม่ผ่าน EIA และนำโครงการดังกล่าวย้ายมาลงทุนในโครงการ Sugar Energy Complex อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา แต่หากในอนาคตสามารถขอ EIA ได้ก็อาจจะหันกลับไปลงทุนในโครงการดังกล่าวอีกครั้ง