ดอลล์แข็งค่าฉุดราคาทองคำปิดร่วง
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) โดยทองคำปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐยังกดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิด (21 มี.ค.) ร่วงลง 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.81% แตะที่ระดับ 1,244.20 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดบวก 3.6 เซนต์ หรือ 0.23% แตะที่ 15.847 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 11.3 ดอลลาร์ หรือ 1.16% แตะที่ 981.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 12.90 ดอลลาร์ หรือ 2.2% แตะที่ 602.95 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ภายหลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สาขาแอตแลนตา และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐยังกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้น 21.57 จุด หรือ +0.12% ในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ดีดตัวขึ้น 1.2% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง 10,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.068 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด