ดอลล์แข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
สกุลเงินดอลล์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (21 มี.ค.) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.86 เยน จากระดับ 111.57 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9697 ฟรังก์ จากระดับ 0.9692 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1248 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1270 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4396 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4480 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7595 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7602 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย. ด้านนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ แสดงความเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวกลับสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% หากราคาเชื้อเพลิงมีเสถียรภาพและดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า
ทั้งนี้ นายแลคเกอร์ระบุว่า หากไม่มีเหตุปัจจัยสุดวิสัยต่างๆ เกิดขึ้น เขาก็เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับ 2% ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ได้กำหนดไว้ในระยะกลาง ส่วนเงินปอนด์ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษเกี่ยวกับสมาชิกภาพของอังกฤษใน EU หลังจากนายเอียน ดันแคน สมิธ ซึ่งสนับสนุนให้อังกฤษออกจาก EU ได้ประกาศลาออกจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผชิญความยากลำบากในการทำให้พรรคเห็นชอบต่อการลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้อังกฤษอยู่ใน EU ในการลงประชามติในเดือนมิ.ย.
สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงหลังจากนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศจะยุบสภา และจะจัดการเลือกตั้ง หากกฏหมายแรงงานไม่ผ่านการเห็นชอบ โดยคาดว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.ค. ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดระบุว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวออสเตรเลียไม่พอใจผลงานของนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลแห่งออสเตรเลียมากขึ้น โดยระดับความไม่พอใจนั้น สูงกว่าความพอใจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายเทิร์นบูลก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.พ.ดิ่งลง 7.1% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.08 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 5.47 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. และ 5.45 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.