ดอลล์แข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.
สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายรายออกมาส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (23 มี.ค.) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1184 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1212 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.4115 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4201 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.7528 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7615 ดอลลาร์สหรัฐ หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวที่ระดับ 112.41 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9749 ฟรังก์ จากระดับ 0.9730 ฟรังก์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เขาจะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนเม.ย.หรือเดือนมิ.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้
ด้านนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า เฟดอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนเม.ย.นี้ โดยเขามองว่า ขณะนี้มีปัจจัยกระตุ้นเพียงพอดังที่ปรากฎให้เห็นในข้อมูลเศรษฐกิจ เพื่อนำไปพิจารณาในการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อไป โดยอย่างเร็วที่สุดก็ในการประชุมปลายเดือนเม.ย.ทั้งนี้ เฟดมีกำหนดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 26-27 เม.ย. ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย.
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนก.พ. สู่ระดับ 512,000 ยูนิต สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 510,000 ยูนิต
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดส่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเดือนก.พ. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต