น้ำมันดิบปิดขยับลง ตลาดวิตกสต็อกพุ่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิด (24 มี.ค.) ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.8% แตะที่ 39.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลบ 3 เซนต์ หรือเกือบ 0.1% แตะที่ 40.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มี.ค. พุ่งขึ้น 9.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 532.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.7 ล้านบาร์เรล ก่อนหน้านี้ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยพุ่งขึ้นมากกว่าถึง 3 เท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด หลังจากเบเกอร์ฮิวจ์รายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลง 15 แท่น สู่ระดับ 273 แท่น ขณะที่นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าของการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งจะจัดขึ้นที่กาตาร์ในวันที่ 17 เม.ย. เพื่อหารือเกี่ยวกับการจำกัดการผลิตน้ำมัน รายงานระบุว่า ลิเบียประกาศจะไม่เข้าร่วมการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 17 เม.ย. ในขณะที่อิหร่านยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายนีล แอตคินสัน ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมน้ำมันและตลาดของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า การบรรลุข้อตกลงระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนหน้า จะไม่มีความหมายแต่อย่างใด เนื่องจากซาอุดิอาระเบียเป็นเพียงประเทศเดียวที่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันได้ ขณะที่ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 25 มี.ค. เนื่องในวัน Good Friday