ดอลล์แข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 มี.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของเฟดได้ออกมาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (24 มี.ค.) อ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1179 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1184 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.4165 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4115 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.7533 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7528 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนที่ระดับ 112.81 เยน จากระดับ 1.1184 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9757 ฟรังก์ จากระดับ 0.9749 ฟรังก์ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงหนุนหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น โดยล่าสุดนายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เขาต้องการให้เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อหนุนต้นทุนการกู้ยืมให้ปรับตัวสูงขึ้น
ก่อนหน้านั้น นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์ กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะส่งผลให้เฟดพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า การแสดงความคิดเห็นของประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์ เป็นไปในทิศทางเดียวกับนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า ซึ่งต่างก็ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าเช่นกัน
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 265,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 มี.ค. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 268,000 ราย ทั้งนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 55 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง
ขณะที่ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 25 มี.ค. เนื่องในวัน Good Friday