PPS มั่นใจรายได้ตามเป้า 300 ลบ. หลังบริหารต้นทุนดี-รุกประมูลงานรัฐฯต่อเนื่อง

นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยว่า สำหรับกำไรสุทธิปีนี้จะกลับมาอยู่ในระดับเดิม หรือใกล้เคียงกับปี 57 ที่มีกำไรสุทธิ 17.72 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ลดวูบไปเหลือเพียง 3.39 ล้านบาท คาดว่าปีนี้อัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ระดับ 6-8% และอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 35% เนื่องจากจะเริ่มเห็นรายได้เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันบริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ค่อนข้างดีด้วย โดยมองว่าผลการดำเนินงานของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปีที่ผ่านมา

“กำไรสุทธิปีนี้เราปรับตัวดีขึ้นแน่นอน เพราะปีนี้เราจะไม่มีผลจากการทำธุรกิจที่ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนในปีก่อนอีก และงานภาครัฐฯที่ชะลอในปีก่อนๆจะเริ่มออกมา และคงจะเริ่มเห็นการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้ครึ่งปีหลังที่ผลประกอบการกลับมาฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน”นายธัช กล่าว

สำหรับรายได้ปีนี้ยังมั่นใจจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 300 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 25% โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) 376 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปีนี้อย่างน้อย 160-170 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอประมูลงานใหม่จากภาครัฐฯอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภาครัฐฯจะเริ่มเปิดให้เสนองานตั้งแต่ในไตรมาส 2 เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นงานรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ งานสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 และอื่นๆอีก ซึ่งงานใหญ่ของภาครัฐแต่ละงานมีมูลค่าเป็นหลัก 100 ล้านบาทขึ้นไป

ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกบริษัทได้รับงานใหม่จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงห้างสรรพสินค้า และโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียม มูลค่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

ส่วนงานในกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บริษัทได้เริ่มเข้าไปทำงานบริหารโครงการห้างสรรพสินค้าในประเทศมาเลเซียตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่งานโรงพยาบาลในลาว มีการชะลอโครงการออกไปอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงเดินหน้าแผนการขยายงานในกลุ่มประเทศ AEC อย่างต่อเนื่อง และหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ แนะนำธุรกิจและบริการของ PPS ให้เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้ารับงานในอนาคตอันใกล้

“PPS ยังคงเดินหน้าเสนองานในส่วนต่างๆตามแผนธุรกิจที่วางไว้ แม้จะมีงานบางส่วนชะลอตัวออกไปแต่ก็ไม่กระทบกับ Backlog ของบริษัท เนื่องจากเป็นงานที่มีมูลค่าไม่สูงและมีงานใหม่เข้ามาทดแทน ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ 300 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 61 และตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 300 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 25% จากปีก่อน”นายธัช กล่าว