ดอลล์อ่อนค่าหลังตลาดคาดเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (1 เม.ย.) แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1390 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1389 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4231 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4374 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นแตะระดับ 0.7682 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7674 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 111.61 เยน จากระดับ 112.51 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9587 ฟรังค์ จากระดับ 0.9601 ฟรังค์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า แม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ แต่ก็จะไม่ผลักดันให้เฟดรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้เน้นย้ำว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เมื่อพิจารณาจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวานี้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 205,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานขยับขึ้น 0.1% แตะระดับ 5.0% หลังจากทรงตัวที่ 4.9% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี
ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 51.8 ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.5 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีภาคการผลิตในเดือนมี.ค.อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50.7 ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการ หลังจากที่อยู่ในภาวะหดตัวติดต่อกัน 5 เดือน