น้ำมันดิบปิดพุ่งหลังสต็อกสหรัฐฯร่วงเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า บริษัททรานส์แคนาดา คอร์ป ได้เลื่อนการลำเลียงน้ำมันดิบผ่านท่อส่ง Keystone ไปยังเมืองคุชชิง และรัฐอิลลินอยส์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 1.86 ดอลลาร์ หรือ 5.2% แตะที่ 37.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดพุ่งขึ้น 1.97 ดอลลาร์ หรือ 5.2% แตะที่ระดับ 39.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 เม.ย. ร่วงลง 4.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 529.9 บาร์เรล โดยสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากมีรายงานว่า บริษัททรานส์แคนาดา คอร์ป ได้เลื่อนการลำเลียงน้ำมันดิบผ่านทางท่อส่ง Keystone ในปริมาณ 590,000 บาร์เรลต่อวัน ไปยังเมืองคุชชิง และรัฐอิลลินอยส์ ทั้งนี้ โครงการ Keystone ร์เป็นการสร้างท่อส่งจากแคนาดาผ่านรัฐมอนทานาและเซาท์ดาโกตา ไปจนถึงรัฐเนบราสกาของสหรัฐ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับท่อส่งน้ำมันเดิม เพื่อลำเลียงน้ำมันดิบไปยังโรงกลั่นตามแนวกัลฟ์โคสต์
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกหลังจาก นาวาล อัล-ฟูซาเอีย ผู้ว่าการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประจำคูเวต กล่าวว่า การประชุมระหว่างสมาชิกโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกที่กรุงโดฮาในวันที่ 17 เม.ย.นั้น ที่ประชุมจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต แม้ว่าอิหร่านไม่ได้เข้าร่วมในแผนการดังกล่าวก็ตาม