รวมเทคนิคหุ้นเด่นภาคบ่ายจาก 6 โบรกเกอร์ดังประจำวันนี้

รวมเทคนิคหุ้นเด่นภาคบ่ายจาก 6 โบรกเกอร์ดังประจำวันที่ 8 เม.ย.59


บล.ธนชาต

FSMART “ซื้อ” ราคาหุ้นดีดตัวยกฐานขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน พร้อมปริมาณการซื้อขายหนาแน่น สอดคล้องกับเครื่องมือ DI+ ชี้ตัด DI-, ADX ขึ้น และ MACD มีแนวโน้มเป็นบวก เป็นจังหวะซื้อเก็งกำไร มีแนวต้านแรกที่บริเวณ 13.90 บาท และเป้าหมายตามกรอบที่ 14.50 บาท

CHG “ซื้อ” ราคาหุ้นยกฐานสูงขึ้น สอดคล้องกับเส้นค่าเฉลี่ยเรียงตัวตัดกันทำ Golden Cross ขึ้นสนับสนุนแนวโน้ม เป็นจังหวะซื้อเก็งกำไร มีแนวต้านแรกที่จุดสูงสุดเดิมบริเวณ 2.92 บาท หากทะลุผ่านได้จะเป้าหมายถัดไปที่ 3.04 บาท

IRCP “ซื้อ” ราคาหุ้นแกว่งตัวยกฐานขึ้น พร้อมปริมาณการซื้อขายสูงสนับสนุน สอดคล้องกับเครื่องมือ MACD และ ADX ไต่ระดับขึ้นตามราคาหุ้น เป็นจังหวะเก็งกำไร มีแนวต้านแรกที่ 6.00 บาท และเป้าหมายถัดไปที่ 6.15 บาท

 

บล.เอเอสแอล

BIG (ราคาปิดภาคเช้า 2.26)

ซื้อเก็งกำไร แนวรับ 2.20 แนวต้าน 2.30 / ซื้อตามหากผ่าน 2.30 
ระดับราคาและแท่งเทียนแกว่งตัวในกรอบ 2.18-2.30 อย่างมีนัยสำคัญ ระยะสั้น ซื้อเพื่อเล่นรอบเมื่อระดับราคาปรับตัวทดสอบยืนแนวรับSMA5วัน 2.20 ไม่ต่ำกว่าลงมาแนวโน้มมีโอกาสทดสอบผ่านแนวต้านกรอบแกว่งตัวขึ้นมาเป็นสัญญาณซื้อ โดยมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำ

BEM (ราคาปิดภาคเช้า 5.55)

ซื้อแนวรับ 5.45 / ซื้อตามหากผ่าน 5.60 แนวต้าน 6.00/6.10 SL=6.40 
รูปแบบการกลับตัวขึ้นยังคงแอ่งกระทะขาขึ้น ระยะสั้นการแกว่งตัวแท่งเทียนปรับตัวยืนSMA10วัน 5.45 ได้อย่างมีนัยสำคัญ แนวต้านหลัก 5.60 เป็นจุดพิจารณาซื้อระยะสั้นเล่นรอบตามเมื่อผ่านยืนขึ้นมา โดยมีแนวต้านเป้าหมายตามรูปแบบที่ 6.00-6.10

 

บล.กสิกรไทย

– หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: AIT เป้าทำกำไร 34.00 บาท ตัดขาดทุน 31.25 บาท

STEC ภาพ 60 นาที ราคาถดถอยลงมาที่ 21.10 ก่อนจะวกตัวกลับขึ้นเหนือเส้นเฉลี่ยระยะสั้น เข้าใกล้ทดสอบเส้นกด 22.00 ด้าน MACD ยังอยู่ในแดนลบ แต่เริ่มวกตัวขึ้นเหนือค่าเฉลี่ยตัวเอง มีสิทธิหนุนราคาผ่านเส้นกด สร้างสัญญาณที่ดี อาจเข้าเก็งกำไร โดยมีแนวรับแถว 21.90-21.60 และมีแนวรอขายทำกำไรช่วงสั้นอยู่แถว 22.50 และ 23.00 ขณะที่ ใช้การถอยหลุด 21.30 เป็น Stop Loss

 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)

AOT/385 ยกตัวกลับมายืนบน EMA-75 พร้อมสัญญาณฟื้นตัวจากเครื่องมือระยะสั้น น่าลุ้นรีบาวด์ “เก็งกำไร” แนวรับ 382 จุด ต้าน 390, 395 Cut loss 379 บาท

ASEFA/5.80 แรงซื้อหนุนให้ราคาดีดตัวขึ้นมาได้หลังลงแตะแนวรับเดิม คาดเหวี่ยงตัวขึ้นได้ตามรอบ “เก็งกำไร” แนวรับ 5.70 จุด ต้าน 5.90, 6.00 Cut loss 5.60 บาท

BCH/10.90 ทรงตัวโดยมี EMA-25 พยุงราคามาตลอด คาดใกล้ได้เวลาฟื้นตัวหลังแรงซื้อเข้าหนาแน่น ไม่หลุด 10.50 ก็น่าลุ้นขึ้นต่อ “เก็งกำไร” แนวรับ 10.70 แนวต้าน 11.40 Cut loss 10.50 บาท

 

บล.ไทยพาณิชย์

EPCO (รับ 5.35 ต้าน 5.90 Cut 5.20) และ SENA (รับ 2.62 ต้าน 2.80 Cut 2.54)

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)

Minor International (MINT TB; THB 36.00) – ซื้อ

แนวต้าน: 38.00 และ 39.00 แนวรับ: 36.00 และ 35.75 

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากแรงขายทำกำไร แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบ 43.00 

MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 50

แนะนำซื้อ MINT โดยมีแนวรับที่ 36.00 และ 35.75 และมีแนวต้านที่ 38.00 และ 39.00 เป็นจุดขายทำกำไร 

STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 34.00 ลงไป

 

Jasmine International (JAS TB; THB 3.62) – ซื้อ

แนวต้าน: 3.84 และ 3.96/เป้าหมาย 4.30 แนวรับ: 3.62 และ 3.60 

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 3.70 ซึ่งเป็นแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะสั้นแต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อไนหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60

แนะนำซื้อ JAS โดยมีแนวรับที่ 3.62 และ 3.60 หรือซื้อเพิ่มทะลุผ่าน 3.72 และมีแนวต้านที่ 3.84 และ 3.96 เป็นจุดขายทำกำไรในระยะสั้น  

STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.56 ลงไป

Back to top button