THAI คาดผลการดำเนินงานปีนี้พลิกกำไร เผยยอด cabin factor ช่วง Q1 เฉลี่ย 75-77%
THAI คาดผลการดำเนินงานปีนี้พลิกกำไรจากปีก่อนขาดทุน 1.3 หมื่นลบ. คาด cabin factor ช่วง Q1/59 เฉลี่ย 75-77% สูงกว่าปีก่อน
นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกข์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในไตรมาส1/59 จะมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (cabin factor) เฉลี่ยที่ 75-77% สูงกว่าในไตรมาส 1/58 ที่มี cabin factor ระดับ 73-74% เนื่องจากเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางมากขึ้น โดยปีนี้ยอดผู้โดยสารสูงมากในเดือนก.พ. ที่มีเทศกาลตรุษจีน ต่างจากปีก่อนที่ยอดผู้โดยสารสูงในเดือนม.ค.
ขณะที่ยอดผู้โดยสารยังคงดีต่อเนื่องในเดือนมี.ค. จนถึงเม.ย. ทำให้คาดว่าในเดือนเม.ย.จะมี cabin factor ใกล้เคียงไตรมาส 1/59 อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาล (Low Season) บริษัทก็ได้เริ่มทยอยออกโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อหาลูกค้าต่อเนื่อง ขณะเดียวกันสถานการณ์ตลาดในยุโรปยังไม่ค่อยดีนักหลังจากเหตุวางระเบิดในสนามบินบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ส่งผลกระทบต่อบริษัทพอสมควร แต่ก็ได้ตลาดญี่ปุ่น จีน และเกาหลีเข้ามาชดเชย
ทั้งปีคิดว่า cabin factor คงไม่ถึง 80% โดยใน 3 เดือนข้างหน้าคือพ.ค. ,มิ.ย. และก.ค.เป็นช่วง Low Season ก็ยังไม่แน่ใจ แต่ก็เตรียมรับมือแล้ว เดือนเม.ย. cabin factor ขึ้นมาพอใจระดับหนึ่ง เพราะ cabin factor ขึ้นมา 1% ก็คือรายได้ 2 พันกว่าล้านบาท อนึ่ง ในปี 58 การบินไทยมี cabin factor เฉลี่ยที่ 73%
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้น่าจะมีกำไรอยู่บ้างแต่ไม่มากจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1.3 หมื่นล้านบาท โดยต้นทุนน้ำมันขณะนี้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ แม้ราคาน้ำมันปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 40-45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลก็ตาม ขณะที่บริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันระดับ 47% ในปีนี้ เทียบกับปีก่อนที่ทำไว้ระดับ 80%
นอกจากนี้ในปีนี้การบินไทยก็ยังดำเนินการแผนฟื้นฟูกิจการต่อเนื่องจากปัจจุบันที่เดินหน้าแผนไปได้แล้ว 60-70% ส่วนแผนที่เหลือ ได้แก่ การจัดหาระบบเข้ามาสนับสนุนการขาย เช่น ระบบ Revenue Management ระบบ Network
ส่วนการปรับแผนการรับมอบเครื่องบินใหม่นั้น นายณรงค์ชัย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตเครื่องบิน ซึ่งไม่ง่ายนักเพราะมีภาระผูกพันต่างๆ อย่างไรก็ตามคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปในเดือนเม.ย. หรือเดือนพ.ค.นี้
ทั้งนี้ ตามแผนเดิมบริษัทจะต้องรับมอบเครื่องบินใหม่ 14 ลำ ในช่วงปี 59-61 คือในกลางปีนี้รับมอบ 2 ลำ เป็น แอร์บัส A350 และในปี 60 รับมอบ 7 ลำเป็นแอร์บัส A350 จำนวน 5 ลำ และโบอิ้ง B787 จำนวน 2 ลำ และในปี 61 รับมอบอีก 5 ลำ เป็นแอร์บัส A350 ทั้งหมด
โดยการบินไทยเตรียมจะกลับมาบินตรงที่เมืองมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย ในตารางฤดูหนาวที่เริ่มใช้เดือนต.ค.นี้ โดยที่ผ่านมานายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของบริษัทได้เดินทางไปมอสโคว์ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเห็นแนวโน้มที่ดี จึงจะกลับมาทำการบินอีกครั้งหลังจากสถานการณ์ที่มอสโคว์ดีขึ้น โดยสายการบินต้นทุนต่ำที่ตัดราคาเส้นทางนี้ได้เลิกกิจการแล้ว และคนรัสเซียก็ยังมีแนวโน้มมาเที่ยวในแถบเอเชียมาก