AQUA ใจป้ำ! ปันผล 100% ของกำไร อวดฐานะการเงินสุดแกร่ง!

AQUA ใจป้ำ! จ่ายปันผล 0.03 บาท/หุ้น หรือ คิดเป็น 100% ของกำไร หลังฐานะการเงินแข็งแกร่งมีเงินสดสูงถึง 900 ล้าน! โดยจะขึ้น XD วันที่ 28 เม.ย. 59 กำหนดจ่ายปันผล 18 พ.ค. 59 เล็งส่งบริษัทย่อย “ไทย คอนซูเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์” เข้าตลาดหุ้น หลังเพิ่มพื้นที่เช่ารองรับลูกค้าใหม่ใน Q3/59 หวังดันรายได้เพิ่มอีก 100 ลบ. ขณะที่อยู่ระหว่างมองหาการลงทุนธุรกิจใหม่


นางสุมาลี อ่องจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำครั้งที่ 1/2559 ในวันที่ 22 เม.ย. 2559 มีมติอนุมัติในวาระสำคัญคือ การจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 2558 กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 3 สตางค์ต่อหุ้น

โดยมีกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พ.ค. 2559 นี้ แบ่งจากกำไรสุทธิของบริษัท งบเฉพาะกิจการในปี 2558 มาจ่ายทั้งสัดส่วน 100% หรือเป็นจำนวน 108.94 ล้านบาท และนำกำไรสะสมของบริษัทอีก 36.10 ล้านบาท มาจ่ายรวมด้วย คิดเป็นเงินจำนวน 145.04 ล้านบาท หลังหักเงินสำรองตามกฎหมายจำนวน 7.25 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นทั้งสิ้นคิดเป็นเงินรวม 137.79 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดภายในมากกว่า 900 ล้านบาท

“บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลได้จากกำไรทั้งหมด 100% เพราะเรามีเงินในมือจำนวนมาก ที่พร้อมใช้ในการลงทุน และทุกธุรกิจในกลุ่มของบริษัทตอนนี้สามารถเติบโตได้ดี และทำกำไรได้เป็นที่น่าพอใจ”

สำหรับนโยบายการลงทุนจะแบ่งเป็น 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือ จะเน้นการลงทุนในธุรกิจที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ดี อีกทั้งสร้างกำไรสุทธิกลับมายังบริษัทอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะจากเงินปันผล ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีเงินปันผลที่ได้รับรับจากการลงทุนถือหุ้น  ทั้งผ่านบริษัทย่อยคือ บริษัท อควาแอด (AA) ซึ่งบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 100% ,บริษัทไทย คอนซูเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ (TCDC) บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 96.13% และ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 38.40% ประเด็นที่สองคือ สร้างการเติบโตจากแผนการแยกบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่สร้างผลตอบแทนได้ดี จากความพร้อมของเงินสดภายในที่มีจำนวนมาก โดยช่วงปลายปี 2558 บริษัทได้มีการลงทุนในธุรกิจโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 3.86 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)  ได้ประมาณไตรมาส 1 ปี 2560 ซึ่งมีสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาวเรียบร้อยแล้วเป็นระยะเวลา 20 ปี ในราคาขายไฟฟ้าที่ 36 เยนต่อหน่วย

อีกทั้งคณะกรรมการ(บอร์ด) ยังคงมองหาโอกาสการลงทุน ในโครงการต่างๆ ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ล่าสุด บริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด (มันตรา) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ซื้อที่ดินใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ก่อสร้างสถานฟื้นฟูสุขภาพ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นประมาณ 450 ล้านบาท ให้บริษัท เดอะ เคบิน เชียงใหม่ จำกัด (Cabin) เช่าทรัพย์สินทั้งหมดของโครงการภายหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ เพื่อดำเนินธุรกิจฟื้นฟูสุขภาพ เป็นระยะเวลาเช่า 10 ปี และสามารถต่ออายุสัญญาเช่าได้อีก 10 ปี เป็นการกระจายการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้เช่าระยะยาว ซึ่งมีผลตอบแทนที่ดี   ตลอดจนสร้างพันธมิตรในธุรกิจฟื้นฟูสุขภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นในการศึกษาการลงทุนในธุรกิจนี้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต

ส่วนแผนการนำบริษัท TCDC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นั้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายหลังบริษัทเพิ่มพื้นที่เช่าให้แก่ลูกค้ารายใหม่ สร้างรายได้เพิ่มอีกประมาณ 100 ล้านบาทประมาณไตรมาส 3 ปี 2559 เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่เช่าของ TCDC มีอัตราการเช่าพื้นที่เต็ม 100% โดยมีลูกค้าหลักคือ กลุ่มยูนิลีเวอร์ที่ทำรายได้ประมาณ 245 ล้านบาท เป็นสัญญาเช่าระยะยาว 10 ปี และมีบริษัท แอ๊คคอมพลิช เวย์ โฮลดิ้ง จำกัด (AWH) ที่สร้างรายได้อีกประมาณ 50 ล้านบาท

Back to top button