น้ำมันดิบปิดบวก ดอลล์อ่อนค่าหนุนแรงซื้อ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ที่ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิด (26 เม.ย.) ที่ 44.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาลดลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมน้ำมัน เปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐลดลง 8 แท่น สู่ระดับ 343 แท่น ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 เม.ย.
นักลงทุนจับตาดูสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์จากผลสำรวจของแพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมรอบใหม่ระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยนายอับดุลเลาะห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปกยืนยันว่า การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในเดือนมิ.ย. เพื่อหารือกันในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต