ดอลล์อ่อนค่าหลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดบ.

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (27 เม.ย.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1321 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4553 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4579 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7597 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7740 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.52 เยน จากระดับ 111.33 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9715 ฟรังก์ จากระดับ 0.9742 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2606 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2621 ดอลลาร์แคนาดา

ดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ในการประชุมวันนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์กันไว้ หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006 ถึงแม้เฟดเปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. แต่แถลงการณ์หลังการประชุมบ่งชี้ว่าเฟดไม่รีบร้อนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า ตลาดแรงงานได้ปรับตัวดีขึ้น ถึงแม้เศรษฐกิจได้ชะลอตัวลงเมื่อไม่นานมานี้

แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดระบุว่า “กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจได้ชะลอตัวลง โดยการขยายตัวด้านการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนได้ลดลง ถึงแม้รายได้ที่แท้จริงของภาคครัวเรือนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ในระดับสูง” เฟดระบุว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายในระยะยาวของเฟดที่ระดับ 2% โดยถูกกระทบจากการลดลงของราคาน้ำมันและดัชนีราคา แต่เฟดมีความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวแตะ 2% ในระยะกลาง

แถลงการณ์ระบุว่า FOMC จะยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดต่อสิ่งบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อ, เศรษฐกิจโลก และพัฒนาการทางด้านการเงินต่อไป ขณะเดียวกัน เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวในอัตราปานกลาง และตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่ง